สืบเนื่องกรณี นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชิวารักษ์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก ระบุว่าถูกอาจารย์ห้ามเข้างาน OPEN HOUSE ที่คณะรัฐศาสตร์ ม.เชียงใหม่ (อ่านข่าว รัฐศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ห้าม ‘เพนกวิน-บอล ‘เข้างาน open house ชี้เป็น”ภัยต่อความมั่นคง”) ก่อนที่ ล่าสุด นายพริษฐ์ ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า งานที่ตนถูกห้ามนั้น ตนได้รับเชิญจากประธานโครงการให้เดินทางไปบรรยาย โดยเป็นกิจกรรมนักศึกษา ดังนั้น หากจะมีใครห้ามบรรยาย ควรเป็นนักศึกษา ไม่ใช่อาจารย์ ซึ่งควรเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้จัด (อ่านข่าว ‘เพนกวิน’ รับไม่ได้ ฝ่ายบริหาร มช. กดดัน นศ. ชี้ขัดเจตนารมณ์มหา’ลัย ต้องเป็นพื้นที่ปัญญาสาธารณะ) นั้น
ล่าสุดรุ่นพี่ของนักศักษาผู้จัดงาน OPEN HOUSE ที่คณะรัฐศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบ๊กบัญชี Mei Xin Lin ชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยมีข้อความระบุว่า
จะมาเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของดราม่าคณะรัฐศาสตร์เมื่อวานนี้ ทั้งนี้เหตุเกิดจากการที่เพื่อนเราคนหนึ่งโดนไบแอดจากเพื่อนและรุ่นพี่ ว่าเป็น Invisible Hand หวังว่าทุกคนที่ได้มาอ่านจะเข้าใจเรื่องราวมากขึ้น — เลิกกล่าวหาแล้วบีบให้ใครมารับผิด ทั้งที่ไม่ผิดได้ละ ถ้าจะผิดคือเขียนฟอร์มใบเชิญผิด
เรื่องของเรื่องเกิดจากว่า
วันหนึ่งเพนกวินและพี่บอลขึ้นมาเชียงใหม่เพื่อมาพูดคุยธุระกับพวกเรา (Republic PolSci) ในเวลานั้นปี 1 เตรียมงาน Open House เห็นกลุ่มเรานั่งคุยกันอยู่ ก็เดินเข้ามาทักทายเพราะรู้จักกับเพื่อนเราและตัวเราเอง น้องก็เห็นเพนกวินและพี่บอลพอดี(อาจกล่าวได้ว่าทั้งสองคนเป็นไอดอลของเด็กๆกลุ่มนี้) ก็เลยอยากเชิญมาร่วมกิจกรรม Open House ก็เลยเอาโครงการให้เพนกวินและพี่บอลดู ซึ่งทั้งคนสองก็ใจดี และเอ็นดูน้องๆปี 1 สาขาการเมืองการปกครองมาก เขาช่วยติชมโครงการ แล้วพอน้องบอก
“อยากเชิญพี่มาร่วมด้วยจัง แต่เราไม่มีเงินเชิญ”
ทั้งสองคนก็มองหน้ากัน แล้วเพนกวินก็ลุกไปคุยโทรศัพท์ น้องๆก็นั่งรอ เพนกวินกลับมา ก็บอก
“เรื่องเงินไม่ต้องห่วงละ เดี๋ยวส่งโครงการกับจดหมายเชิญมานะ”
ตอนนั้นอาจารย์ประจำสาขาท่านหนึ่งเดินมาพอดี ตัวเพนกวินก็เข้าไปพูดคุยกับอาจารย์ ว่าจะมาช่วยน้องได้ไหม นั้นนู้น ซึ่งอาจารย์ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
พอได้ตัวพี่บอลและเพนกวินมา อาจารย์รับรู้ เพื่อนที่นั่งอยู่(นิว)ก็สะกิดน้องด้วยความเป็นห่วง เพราะนิวมีประสบการณ์จากการจัดกิจกรรมกับคณะ (ใครยังพอจำได้จะนึกภาพออกว่าเมื่อเดือนตุลามีงานหนึ่งที่สาขาการเมืองการปกครองจัด ซึ่งเราเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมนั้นก็ได้รู้ถึงความยากลำบาก ความกดดันจากฝ่ายต่างๆที่ไม่อยากให้มีกิจกรรมที่มีบรรยากาศทางการเมืองในคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาตร์ เช่น ห้ามนักการเมืองพูดถึงการเมืองปัจจุบัน) นิวเลยได้พูดกับน้องคำหนึ่งว่า
“ถ้าเกิดดราม่ารับไหวนะ” น้องก็พยักหน้า
หลังจากวันนั้นน้องก็ส่งจดหมายเชิญ และเตรียมงาน Open House ต่อตามปกติด้วยความราบรื่นและปรึกษาอาจารย์หลายครั้งเรื่องเชิญวิทยากรและเป้าหมายที่แท้จริงของการเชิญวิทยากร โดยเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนิวเลยแต่เมื่อเกิดเรื่องทุกฝ่ายก็พุ่งเป้ามาที่นิวว่าเป็นตัวบงการ(ขอความเป็นธรรมให้นิวด้วยค่ะ)
และแล้วเหตุการณ์ปั่นป่วนก็เริ่มเกิดขึ้นในคืน คืนก่อนวันจัดงานอาจารย์ท่านหนึ่งแคปแชทและส่งข้อความมาบอกให้น้องปี 1 “อย่างไม่เป็นทางการ” ตอนเที่ยงคืนกว่า ให้ไปบอกเพื่อนๆว่าไม่ให้ทั้งสองคน(พี่บอลและเพนกวิน)เข้างาน ทั้งยังปิดห้องของสาขาการเมืองการปกครองไว้ไม่ให้คนเข้าในช่วงแรกของวันงาน
ซึ่งเมื่อพี่บอลและเพนกวินมาตามสัญญา อาจารย์ประจำสาขาก็เข้ามาบอกคุยกับสองคนอีกครั้งเรื่องขอบเขตเรื่องที่จะพูดทั้งยังย้ำกับพี่บอลและเพนกวินว่าบรรยายไม่เกิน 5 นาทีนะ ซึ่งก็ตรงกับที่พี่บอลและเพนกวินเตรียมสคริปต์มาอย่างระมัดระวัง
แต่เมื่องานใกล้จะเริ่มกลับถูกอาจารย์ท่านหนึ่ง เดินเข้ามาสั่งให้ออกไป(หรือเชิญออกตามสไตล์ท่าน)โดยใช้คำพูดทำนองว่า “นี่มันบ้านของฉัน” ทั้งยังชี้หน้าข่มขู่นักศึกษาใกล้ๆ(นิว) ทำให้พี่บอลฟิวส์ขาดที่เห็นนักศึกษาถูกข่มขู่ ก็เลยปกป้องนักศึกษาคนนั้นและเกิดเป็นเหตุการณ์ดั่งกล่าว (คิดว่าน่าจะหาภาพเหตุการณ์ได้ไม่ยากเพราะที่คณะมีกล้องวงจรปิดทุกๆ 3 เมตร)
สุดท้ายนี้ไม่เข้าใจว่า
1.การเชิญพี่บอลและเพนกวินที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางการเมือง มีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถและยังเป็นนักศึกษา มาร่วมบรรยายไม่เกิน 5 นาที ในงานโอเพ่นเฮ้าส์ของสาขาการเมืองการปกครองโดยที่อาจารย์รับรู้ และส่งจดหมายเชิญนั้นผิดอะไร?
2.จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทุกคนควรโฟกัสที่อะไรกันแน่ สิทธิเสรีภาพทางวิชาการ ฟอร์มจดหมายเชิญหรือ Invisible Hand?
3.ทำไมหลายฝ่ายถึงออกมาดูถูกศักยภาพของปี 1 โดยการกล่าวว่าเขาถูกชักนำและบงการ
