“ทร.”โต้ ไม่ได้ไล่เวนคืนที่เพื่ออีอีซี ชี้เป็นที่พระราชทานตั้งแต่สมัยร.6 ทหารเรือมีเอกสิทธิ์

“โฆษกทร.” แจง ไม่เคยเวนคืนที่ดินเพื่อใช้ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก ชี้ ต้องเข้าไปจัดระเบียบพื้นที่ ระบุ เป็นที่พระราชทาน ปี 2465 ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ขาดของทหารเรือ

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.พล.ร.ท.เดชดล ภู่สาระ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่มีสื่อมวลชน หลายสำนักได้มีการนำเสนอข่าว ว่ากองทัพเรือทำการเวนคืนที่ราชพัสดุ ในส่วนที่กองทัพเรือดูแลในพื้นที่ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และ ตำบลโยธะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รวมถึงพื้นที่ ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ในโครงการนิคมอุตสาหกรรมบลูเทค รายละเอียดตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น กองทัพเรือขอเรียนชี้แจงให้ทราบโดยแยกเป็น 3 ประเด็นคือ

1.ที่ดินในพื้นที่ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ไม่ได้มีการเวนคืนตามที่สื่อมวลชน ได้มีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด แต่เป็นการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน โดยพื้นที่ในแสมสารนั้นเขตที่ดินในพื้นที่ สัตหีบแบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 ส่วนที่ดิน เรียกว่า ที่พระราชทาน ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ขาดของทหารเรือ ตอนที่ 2 ไม่หวงห้าม แต่ไม่อนุญาตให้ชาวต่างประเทศมาจับจองหรือรับซื้อไปได้ และให้กระทรวงทหารเรือ มีอำนาจอนุญาตแก่ผู้ที่จับจองทำไร่นาและถากถางได้ตามพอสมควร ซึ่งไม่เกินขีดขั้นพระราชบัญญัติการตัดไม้ และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานให้เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2465 ซึ่งในเวลาต่อมา ราษฎรได้มีการร้องเรียนว่า ได้รับความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เนื่องจากอยู่ในที่สงวนหวงห้ามของกองทัพเรือ และคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2538 สรุปได้ว่า “การครอบครองที่ดินในเขตทรงสงวนเป็นการครอบครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ได้ปฏิบัติตามพระราชโองการฯ ที่กำหนดให้กระทรวงทหารเรือเป็นผู้มีอำนาจอนุญาตให้ราษฎรเข้าไปครอบครองในเขตทรงสงวน”

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ดังนั้น จึงเป็นที่ปรากฏแน่ชัดว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้สงวนหวงห้าม และพระราชทานที่ดินพื้นที่อำเภอสัตหีบให้แก่กองทัพเรือ เพื่อใช้เป็นที่ตั้งฐานทัพเรือ โดยมีสิทธิสมบูรณ์ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งสงวนหวงห้ามไว้ให้คนไทยเข้ามาจับจองทำไร่นา โดยให้อำนาจแก่กองทัพเรือเป็นผู้มีอำนาจอนุญาต ที่ดินนี้จึงเรียกว่า “ที่ทรงสงวน” คือ ทรงสงวนไว้ให้ทหารเรือพิจารณาในการใช้ประโยชน์ตามสมควรต่อไป และในปัจจุบันนี้ กองทัพเรือ โดย ฐานทัพเรือสัตหีบร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กำลังดำเนินการพิจารณาอนุญาตการครอบครองที่ดินในเขตทรงสงวนเป็นราย ๆ ไป ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎร และปฏิบัติให้เป็นไปตามพระบรมราชโองการฯ

Advertisement

โดยการดำเนินการทั้งหมดนั้น ราษฎรจะมีหนังสือขออนุญาตการครอบครอง โดย ผู้บัญชาการทหารเรือ จะพิจารณาอนุญาตให้ทุกราย หากไม่ผิดกฎหมาย เช่น ไม่รุกล้ำที่เขา หรือที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย หลังจากนั้น กรมที่ดินจะนำตราประทับที่โฉนดว่าได้รับการอนุญาตจากกองทัพเรือแล้ว จึงสามารถใช้เป็นเอกสารที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ ถ้าหากครอบครองที่ดินโดยออกโฉนดไปก่อนหน้านี้แล้วถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะต้องให้กองทัพเรืออนุญาตก่อน ซึ่งกองทัพเรือก็จะอนุญาตให้ทุกราย หากเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย

โดยในส่วนของตำบลแสมสาร อยู่ในเขตทรงสงวน ที่ผ่านมา กองทัพเรือ ไม่เคยอนุญาตให้ราษฎรรายใดเข้าจับจองพื้นที่ในเขตทรงสงวน ซึ่งการดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินในพื้นที่ตำบลแสมสารนั้น กองทัพเรือ โดย ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ดำเนินการตามหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีกลุ่มนายทุน บุกรุกที่ราชพัสดุไปดำเนินการทางธุรกิจ อาทิ ร้านอาหาร รีสอร์ท โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงการบุกรุกที่ดินของรัฐในลักษณะอื่น ๆ เช่น ลักลอบขุดดิน ถมทะเล ไม่ขออนุญาตก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง การซื้อขายที่ดินของรัฐโดยมีเอกสารสิทธิ์ เป็นผลให้ กองทัพเรือ โดย ฐานทัพเรือสัตหีบ มีความจำเป็นต้องเข้ามาจัดระเบียบในพื้นที่ โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างทั่วถึง เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน โดยไม่เกี่ยวข้องกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก แต่อย่างใด ยกเว้นในพื้นที่ท่าเรือจุกเสม็ด ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่แสมสาร

พล.ร.ท.เดชดล กล่าวอีกว่า 2.ที่ดินในพื้นที่ตำบลโยธะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา กองทัพเรือได้เข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2491 เพื่อดำเนินการในด้านเกษตรกรรมสำหรับการเตรียมกำลังและการส่งกำลังบำรุง จึงเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ซึ่งในส่วนของปัญหาที่ดินที่เป็นข่าว เป็นการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินไม่ได้เกี่ยวกับการเวนคืนที่ดินแต่อย่างใดโดยผู้เช่าที่ดินส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่เช่าที่ดิน เพื่อทำนาและไม่ยอมย้ายออกภายหลังการถูกบอกเลิกสัญญาเช่า โดยกองทัพเรือมีความจำเป็นที่จะใช้ที่ดินดังกล่าวเพื่อเป็นที่ตั้งหน่วยทหารและพื้นที่การฝึกกองเรือลำน้ำในภารกิจด้านการป้องกันประเทศ โดยไม่เกี่ยวเนื่องกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกและ3.ที่ดินในพื้นที่ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่จะใช้ในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมยานยนต์ บลูเทคซิตี้ นั้น ไม่ได้อยู่พื้นที่ของกองทัพเรือแต่อย่างใด

Advertisement

“กองทัพเรือรวมถึงกำลังพลทุกนายของกองทัพเรือ ล้วนแล้วแต่เป็นคนไทย เป็นลูกหลานของคนไทย ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด กองทัพเรือจะไม่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ปัญหาต่าง ๆ ต้องได้รับการแก้ไขแต่อาจต้องใช้ระยะเวลา การพูดคุย การดำเนินการ โดยกองทัพเรือพร้อมที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อเป็นไปตามเจตนารมณ์ ของกองทัพเรือในการเป็นหน่วยงานที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ และขอยืนยันว่าไม่เคยเวนคืนที่ดินเพื่อใช้ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก แต่อย่างใด”พล.ร.ท.เดชดล กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image