“วิรัช” โว พปชร.โกยยกโคราช “แรมโบ้” บอกเอาด้วยเพราะเบื่อวุ่นวาย ขณะที่สุพล ชี้ “กระแสดีวันดีคืน”
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนและครอบครัวทั้งภรรยาและลูก มาสมัครเป็นสมาชิกในนามพรรคพลังประชารัฐโดยตรงผ่านการชักชวนจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ไม่ได้มาในนามของกลุ่มสามมิตร และได้นำทีมงานและว่าที่ผู้สมัครมาเข้าร่วมในนามพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง จ.นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และจะตามมาในหลายจังหวัด โดยเหตุผลที่รวมตัวมาสมัครเป็นสมาชิก เพราะพรรคนี้ดูแลประชาชน ถึงระดับรากหญ้า เป็นที่ยอมรับของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน เห็นได้จากที่รัฐบาลมีโครงการลงไปในพื้นที่ ต้องขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่วางนโยบายที่ดีให้เราพบปะพูดคุยประชาชน ซึ่งทุกคนเห็นดีด้วยกับนโยบายของรัฐบาล
“มั่นใจว่าผู้สมัครที่จะส่งในนามของพรรคในพื้นที่ภาคอีสานทั้ง 14 เขตของ จ.นครราชสีมา จะได้เกือบครบหรือทั้งหมดของจังหวัด การตัดสินใจจะลงสมัครแบบเขตหรือบัญชีรายชื่อ ต้องขอดูการแบ่งเขตเลือกตั้งให้ชัดเจนก่อน ขณะที่ 116 เขตในภาคอีสาน ทั้งหมดจะมีผู้ที่รับผิดชอบดูแล และจากการลงพื้นที่พบว่ามีกระแสตอบรับที่ดีกลับมา เพราะมีผู้ที่รับผิดชอบดูแลในแต่ละโซนพื้นที่ ซึ่งหากพื้นที่ใดที่ยังมีปัญหาจะเป็นผู้ใหญ่ในพรรคที่จะพิจารณาหาข้อสรุป ซึ่งผู้สมัครของเรามีมากกว่าจำนวนเขตที่มี จึงมีตัวเลือกที่มากขึ้น”
ผู้สื่อข่าวถามว่าเสียงตอบรับพรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ถือว่าดีใช่หรือไม่ จึงตอบรับเข้ามาร่วมงานกับพรรคนายวิรัช นายวิรัชกล่าวว่า ได้สอบถามประชาชนว่ามีพรรคการเมืองใดที่ดูแลประชาชนชัดเจน เราจะอยู่ตรงนั้น วันนี้พรรคพลังประชารัฐดูแลชัดเจน
เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่าเหตุผลสำคัญที่มาร่วมงานกับพรรคเป็นเพราะมีข้อแลกเปลี่ยนกับเรื่องคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลที่ยังค้างอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่เป็นปัญหาและต้องใช้เวลาอีกนานทุกคนต่างมีปัญหาหมด ไม่มีใครที่ไม่มี แต่ตนไม่ได้กังวลอะไร ขอย้ำว่าการเข้าร่วมงานกับพรรคไม่มีเรื่องข้อแลกเปลี่ยนทางคดีใน ป.ป.ช. ถ้ามีจะพาคนมาสมัครได้ขนาดนี้หรือ
ด้าน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวว่า ที่มาสมัครสมาชิกวันนี้เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย โดยในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ที่จะประชุมกรรมการบริหารพรรค ตนจะลงสมัคร ส.ส.เขต ก่อนได้รับมอบให้เป็นโฆษก จ.นครราชสีมา
นายสุพล ฟองงาม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้ตัดสินใจมานานหลายเดือนแล้วว่าจะร่วมงานกับพรรค เพราะอยากเห็นบ้านเมืองสงบ ไม่อยากเห็นความขัดแย้งต่อไป และเห็นฝีมือด้านเศรษฐกิจที่ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารของของพรรค เชื่อมั่นว่าหากได้ผู้บริหารชุดนี้ไปเป็นรัฐบาลจะได้เห็นเศรษฐกิจบ้านเมืองไปในทิศทางที่ดีมาก ทั้งนี้กระแสตอบรับของพรรคในพื้นที่ ต้องใช้คำว่าดีวันดีคืน มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เสียงตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดี ทำให้ทุกคนมีกำลังใจที่จะลงพื้นที่ด้วยเหตุผลสำคัญคือนโยบายของรัฐบาล ส่วนจะชักชวนบุคคลอื่น เช่น นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ มาร่วมงานหรือไม่นั้น เห็นว่านายมิ่งขวัญเป็นผู้ใหญ่คงไม่บังอาจไปชักชวน และพูดถึงพรรคที่ตนจะสังกัดโดยไม่ขอพูดถึงพรรคการเมืองเก่า ที่เคยสังกัดวันนี้ได้นำเสนอปัญหาและนโยบายของพลังประชารัฐคือก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
“ผมมั่นใจทุกเขตในจังหวัดอุบลราชธานี ว่าจะชนะเลือกตั้ง ถึงที่สุดแล้วจะได้กี่เขตเกิดขึ้นอยู่กับประชาชน”
