‘สมศักดิ์’ ไม่สนเสียงวิจารณ์ รธน.เอื้อพวกเรา ชูกลยุทธ์ล้างศรัทธาพรรคเก่า

“สมศักดิ์” ไม่สนเสียงวิจารณ์ รัฐธรรมนูญเอื้อประโยชน์พวกเรา ลั่น พร้อมช่วย พปชร.หาเสียง ชู กลยุทธ์ ล้างศรัทธาพรรคเก่า ยัน บิ๊กตู่ เหมาะเป็นนายกฯ

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานการเมืองหลังจากนี้ว่า เมื่อนำกลุ่มสามมิตรเข้าพรรค พปชร.ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากนี้จะไม่มีกลุ่มสามมิตรอีกแล้ว โดยขณะนี้อดีตแกนนำกลุ่มสามมิตรพร้อมทำงานร่วมกับพรรค พปชร. เชื่อว่าจากความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทางการเมืองจะเป็นประโยชน์ต่อการหาเสียงของพรรคอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ได้รับมอบหมายงานและอาจยังไม่ถึงเวลา เนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองหาเสียงในขณะนี้ ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่คิดว่าพรรค พปชร.จะได้เปรียบคู่แข่งอย่างที่มีเสียงวิจารณ์ เพราะมีทั้งได้เปรียบและเสียเปรียบ เนื่องจากเป็นพรรคใหม่ที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก ดังนั้น หากต้องการได้ ส.ส.จำนวนมาก ผู้สมัครจะต้องใช้ความขยัน อดทน เดินเข้าหาประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในแนวนโยบายของพรรค ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประชารัฐของรัฐบาลปัจจุบัน

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ส่วนกลยุทธ์ในการหาเสียง นอกจากชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวนโยบายของพรรคแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับการล้างความเชื่อที่ประชาชนมีต่อพรรคการเมืองเก่าที่ยังได้รับความนิยมด้วย โดยต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่าที่แล้วมาประเทศไทยมีปัญหาอย่างไร เช่น เกิดม็อบในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กระทั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกฯก็เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จึงมีม็อบ 2 ขั้วการเมือง ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องทำรัฐประหาร เป็นคนกลางแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังเร็วไปที่จะประเมินว่า พปชร.ได้ ส.ส.เท่าไหร่ จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

“ที่บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรานั้น ยอมรับว่าพูดจริง แต่ในความหมายนั้นได้หมายถึงพรรคการเมืองขนาดกลาง และพรรคการเมืองขนาดเล็ก รวมถึงพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่ไม่มีฐานเสียงมาก่อน การพูดเป็นการปลุกใจให้บรรดาผู้สมัครหน้าใหม่ๆ ได้ลงพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนเพราะการเลือกตั้งในครั้งนี้ รัฐธรรมนูญเขียนให้ทุกคะแนนเสียงนั้นมีค่า แม้เราจะไม่ได้ ส.ส.ในระบบเขต แต่ทุกคะแนนที่ประชาชนวางใจเมื่อสะสมในทุกจังหวัด ก็สามารถทำให้เราได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ”

Advertisement

นายสมศักดิ์กล่าวว่า แม้ประเด็นนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ตนไม่ได้ไปสนใจอะไร และไม่คิดจะไปตอบโต้ให้เป็นประเด็นยืดยาว เพราะจุดเด่นของพรรคประชารัฐนั้นไม่นิยมความขัดแย้ง ต้องการให้ประเทศสงบ ไม่ต้องการให้ประชาชนรู้สึกว่าเรายึดติดกับความขัดแย้ง การตอบโต้ไปมาไม่ทำให้ประเทศหรือเศรษฐกิจภาพรวมดีขึ้น ดังนั้นเราจะเสียเวลากับเรื่องเดิมๆ ที่ทำให้ประเทศเกิดความขัดแย้ง เราจึงคิดเพียงนโยบายที่ช่วยประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงเกษตรกรที่จะต้องอยู่ดีกินดีด้วยแนวทางแก้ไขที่เรียกว่าเศรษฐศาสตร์การเมือง ซึ่งอีกไม่นานนี้จะมีแนวทางในนโยบายที่ชัดเจนครับ

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 เอื้อประโยชน์แก่พวกเรานั้น หมายถึงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ร่างโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เอื้อประโยชน์แก่ทุกพรรค เพราะทุกคะแนนเสียงมีความหมาย ไม่ถูกทิ้งเหมือนรัฐธรรมนูญในอดีต โดยคะแนนจาก ส.ส.เขตสามารถมาสมทบเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ ขณะเดียวกันก็อาจไม่เป็นผลดีต่อพรรคการเมืองใหญ่ เนื่องจากถ้าได้ ส.ส.เขตจำนวนมาก จะส่งผลให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อย

เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์การแตกแบงก์พันของพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมศักดิ์กล่าวว่า คงได้ประโยชน์ ถือว่าเป็นการตอบสนองรัฐธรรมนูญได้ดี เป็นการแก้เกมได้พอสมควร แต่ต้องอย่าลืมว่าเวลาจะจัดตั้งรัฐบาล เรามักจะดึงลูกทีมหรือลูกพรรคไม่ค่อยอยู่ และเนื่องจากพรรคเล็กพรรคน้อยมีมาก ก็อย่าคิดว่าเอาอยู่ บางพรรคเห็นพรรคอื่นได้เป็นรัฐบาล ก็อาจจะขอไปเป็นรัฐบาลกับเขาด้วยก็ได้ เพราะที่แล้วมา พรรคการเมืองจะมีความเป็นเอกภาพ พรรคใครพรรคมัน และในอดีตแค่ให้พรรคเล็กลง ส.ส.แทน ก็โดนยุบพรรคแล้ว แต่นี่มีพรรคเล็ก พรรครอง จะเป็นเงื่อนไขให้ยุบได้หรือไม่ก็ไม่รู้

Advertisement

ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตแกนนำกลุ่มสามมิตร ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐเปิดตัวยิ่งใหญ่กว่าสมัยพรรคไทยรักไทยนั้น คงเป็นความรู้สึกที่ท่านสัมผัสได้ ความยิ่งใหญ่ในที่นี้คงหมายถึงมีผู้หลักผู้ใหญ่ทางการเมืองมาร่วมอุดมการณ์เป็นจำนวนมาก มีคนดีมีความสามารถมาร่วมจำนวนมาก และมีนโยบายที่ดีที่จะทำให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้นอย่าพยายามสร้างเงื่อนไข สาดโคลนโจมตีใคร เพราะมันจะนำไปสู่ความขัดแย้งอีก และขอยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้เป็นนั่งร้านหรือตัวแทนพรรคเผด็จการ แต่เป็นพรรคของพี่น้องประชาชนทุกคน แล้วพี่น้องประชาชนจะเป็นคนตัดสินเองว่าจะให้โอกาสพรรคใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image