เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่บ้านพักนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ถนนวิเศษกุล อ.เมือง จ.ตรัง ได้ให้การต้อนรับ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเดินทางมามอบหมวกนิรภัยให้กับทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ตามโครงการ “ปันน้ำใจมอบหมวกนิรภัยให้น้อง” โดยมีอดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล สมาชิกพรรค นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง นายระลึก หลีกภัย (น้องชาย) ให้การต้อนรับ โดยมีนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒนปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง เป็นตัวแทนรับมอบ โดยมีชาวบ้านร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
สำหรับบรรยากาศภายในบ้าน มีการนำเต็นท์มากาง จัดวางโต๊ะเก้าอี้ พร้อมบริการอาหารเครื่องดื่มให้กับผู้มาร่วมกิจกรรม หลังเสร็จพิธีมอบหมวกนิรภัยมีการรับประทานอาหารร่วมกันอีกด้วย
น.ส.จิตภัสร์กล่าวว่า วันนี้ตนมีความตั้งใจที่จะนำหมวกนิรภัยมามอบให้กับทางตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ที่จัดทำโครงการ “ปันน้ำใจมอบหมวกนิรภัยให้น้อง” เพื่อจัดหาหมวกนิรภัยเพื่อมอบให้เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษาที่ใช้รถจักรยานยนต์ในการเดินทางและครอบครัวที่มีรายได้น้อย วันนี้นำมามอบให้จำนวน 400 ใบ
พ.ต.อ.นุกูลกล่าวว่า สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดตรังมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในปี 2561 มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยเดือนละ 17 คน ซึ่งเป็นสถิติที่สูงมาก จากข้อมูลโรงพยาบาลตรังตั้งแต่ปี 2559 พบว่า มีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเกินกว่า 50% เป็นนักเรียน นักศึกษา และมีอายุระหว่าง 11-12 ปี เป็นกลุ่มที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด และกว่า 80% ไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งนำมาซึ่งความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ไม่อาจประเมินค่าได้ ทางตำรวจภูธรจังหวัดตรังจัดทำโครงการปันน้ำใจมอบหมวกนิรภัยให้น้อง เพื่อจัดหาหมวกนิรภัยเพื่อมอบให้เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษาที่ใช้รถจักรยานยนต์ในการเดินทางและครอบครัวที่มีรายได้น้อย โดยการขออนุเคราะห์จากภาคเอกชนที่มีจิตศรัทธา โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,000 ใบ
นายชวนกล่าวว่า จุดเริ่มต้นวันนี้ได้เรียนเชิญ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มาบรรยายการเรียนภาษาอังกฤษให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง ในฐานะเด็กต่างจังหวัดจะเสียเปรียบมาก ด้วยการสุ่มตัวอย่างจากเด็กที่จบมหาวิทยาลัยและออกไปทำงานว่าถ้ากลับมาเรียนใหม่วิชาอะไรที่อยากเรียนเพิ่ม คำตอบเหมือนๆ กันคือภาษาอังกฤษ กับคอมพิวเตอร์ เพราะว่าขณะนี้ระบบการศึกษาเปลี่ยน ภาษาอังกฤษกลายเป็นวิชาที่จะนำไปสู่การเรียนรู้ทุกเรื่อง คิดว่าทำอย่างไรให้เด็กนักเรียนได้มีการพัฒนาภาษาอังกฤษ มีการแนะนำนักเรียนถึงวิธีการเรียนอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ด้านนายชวนกล่าวว่า เมื่อ น.ส.จิตภัสร์มาแล้วก็มีน้ำใจปรารภเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน และเป็นความจริงว่าจังหวัดตรังเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตเดือนละ 17 คน แต่ว่าตัวเลขที่ชัด ประเทศที่เกิดอุบัติเหตุเป็นอันดับ 2 ของโลกเป็นประเทศไทย และข้อมูลบางปีตายเพราะอุบัติเหตุไม่ใช่อันดับ 2 ของโลก แต่เป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งแสดงว่ารถบ้านเราไม่ดี หรือถนนแคบ รถที่ใช้มาจากต่างประเทศ และถนนก็กว้างไม่น้อยกว่าประเทศอื่นๆ แต่ทำไมจึงเกิดอุบัติเหตุมาก แซงหน้าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน คำตอบก็คือ ความไม่มีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นจุดอ่อนของอุบัติเหตุที่เกิดจากความไม่มีระเบียบวินัย เช่น ประเทศญี่ปุ่นเกิดสึนามิ ประชาชนต่อคิวรับของอย่างเป็นระเบียบวินัย ไม่มีแย่งกัน แต่เพราะคนญี่ปุ่นมีการฝึกระเบียบวินัยมาเป็นอย่างดี ไทยมีจุดอ่อนด้านวินัยทำให้ส่งผลเสียต่อเรื่องดีๆ หลายเรื่อง
“ทราบว่าทางตำรวจภูธรจังหวัดตรังตั้งเป้าว่าจะจัดหาหมวกนิรภัย 1,000 ใบ วันนี้ น.ส.จิตภัสร์มอบมาให้ 400 ใบ เหนือสิ่งอื่นใดหมวกนิรภัยไม่ใช่มีไว้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แต่เพื่อลดความรุนแรงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าสวมหมวกนิรภัยแล้วไม่เกิดอุบัติเหตุ แต่ลดความรุนแรง จังหวัดตรังที่เกิดขึ้นเฉลี่ยเสียชีวิตเดือนละ 17 ราย ก็ต้องให้ลดลง จึงฝากบอกให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังรณรงค์กับเด็กเยาวชน ด้วยการสร้างวินัยในตัวเอง” นายชวนกล่าว
