สถานีคิดเลขที่ 12 : โป๊ะแตก

กระแสการจับโป๊ะแตกในโลกออนไลน์มักเป็นข่าวที่ได้รับความนิยม อาจเพราะ
มีลักษณะของความขัดแย้งก่อนคลี่คลายข้อเท็จจริง

กรณีอินเตอร์เมื่อไม่นานมานี้เกิดขึ้นในอเมริกา เป็นดราม่าชนิดที่เอาไปทำหนังฮอลลีวู้ดได้เลย

เรื่องเริ่มต้นด้วยกระแสดีๆ ชวนให้อบอุ่นในหัวใจ เพราะเป็นการแสดงน้ำใจของคนสามคนและค่อยๆ ขยายออกไปสู่สังคม

เรื่องกุดังกล่าวเผยแพร่ในโลกออนไลน์ว่า ชายเร่ร่อนคนหนึ่งเห็นผู้หญิงเดือดร้อนริมถนนที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ตอนมืดค่ำ เพราะขับรถมาแล้วน้ำมันหมด เงินก็หมดด้วย จึงยอมควักกระเป๋าแห้งๆ ของตัวเองให้ผู้หญิงไปซื้อน้ำมัน 20 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 600 บาท จนไปต่อได้

Advertisement

หญิงสาวซาบซึ้งน้ำใจมาก วันรุ่งขึ้นจึงกลับมาขอบใจชายเร่ร่อนคนนี้ นำเสื้อผ้า น้ำและอาหารมาให้ ต่อมาเดือน พ.ย.2560 หญิงสาวและแฟนหนุ่มร่วมกันเปิด
บัญชีระดมทุนเอาไปช่วยชายเร่ร่อนให้ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่

กระแสซาบซึ้งคนดี ทำให้ผู้คนนับหมื่นแห่บริจาคกันอย่างท่วมท้น รวมแล้วเป็นเงินเกิน 4 แสนดอลลาร์ หรือ 13 ล้านบาท

แต่ต่อมา อาการโป๊ะแตกก็เริ่มตั้งเค้า เมื่อชายเร่ร่อนเริ่มโวยว่า เงินที่คนบริจาคให้มาไม่ถึงตัวเอง เพราะหนุ่มสาวคู่รักเอาไปใช้เอง ทั้งท่องเที่ยวและเข้าบ่อน

Advertisement

สุดท้ายเมื่อเหตุการณ์ผ่านมาครบปี พร้อมกับที่เรื่องถึงศาล ความจึงแตกว่าทั้งสามนั้นร่วมกันกุเรื่องขึ้นตั้งแต่ต้น หวังหลอกเงินบริจาคจากคนที่ซาบซึ้งความดี

อีกกรณีหนึ่ง เพิ่งเกิดที่ออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ปีนี้ มีฮีโร่เป็นคนเร่ร่อนเข้าช่วยดันรถเข็นพุ่งไปสกัดมือมีดคลั่งแทง ช่วยตำรวจเมืองเมลเบิร์น 2 นายไว้ได้ จนได้ฉายา ฮีโร่รถเข็น

จากนั้นไม่นาน ก็มีการระดมเงินบริจาคออนไลน์ให้ฮีโร่นายนี้ถึง 1.4 แสนดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 3.3 ล้านบาท

แต่ตำรวจก็ยังต้องดำเนินคดีนายคนนี้ที่เคยฉกชิงทรัพย์ ย่องเบาเข้าไปขโมยของบ้านคนอื่น ซึ่งทำมาก่อนจะเป็นฮีโร่รถเข็น เพราะการทำดีก็เรื่องหนึ่ง แต่การทำไม่ดี ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ

กรณีของนายคนนี้ถือว่ายังเบา เมื่อเทียบกับฮีโร่ในเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายวางระเบิดงานคอนเสิร์ตอารีนา กรานเด ที่เมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อ พ.ค.2560

ฮีโร่หนุ่มเร่ร่อนที่ให้สัมภาษณ์สื่อ ว่าพุ่งตรงไปช่วยพยุงร่างเหยื่อที่บาดเจ็บจนมีคนบริจาคเงินตอบแทนน้ำใจให้เกิน 2 ล้านบาทนั้น แท้จริงแล้วคือไปขโมยเงินและมือถือของเหยื่อที่นอนเจ็บ และบางรายหายใจรวยริน

สุดท้ายถูกตัดสินจำคุก 4 ปี 3 เดือนไปเมื่อต้นปีนี้

อ่านสามข่าวนี้จบ ก็ได้บทเรียนตอกย้ำอีกครั้งว่า การจะตัดสินความดี หรือคนดีนั้น จะดูกันแว้บๆ หรือเป็นดราม่ามากไม่ได้

อย่างเมืองไทยก็มีกุเรื่องดราม่าคนดีระดับชาติมาแล้ว หลายๆ คนถูกหลอกให้เกลียดนักการเมืองเข้าไส้ เพื่อเปิดทางให้คนดีนอกระบบเข้ามาแทน ยอมทำลายประชาธิปไตยก็ยังได้

ทุกวันนี้ถ้าเลิกหลอกตัวเองได้ ก็คงได้เห็นแล้วว่า ใครโป๊ะแตกอย่างไร และประเทศเรามีอะไรบ้าง

ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image