จากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม รวมถึงการอนุมัติโครงการเพื่อผู้สูงอายุ ฯลฯ รวม 86,994 ล้านบาท จนถูกมองว่าหวังผลทางการเมือง แต่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ใช่ เพราะหลายโครงการไม่ได้เพิ่งมาคิดและทำในวันนี้ เพราะมีกระบวนการสอบถามความเห็นจากประชาชน ซึ่งใช้เวลามาพอสมควร และยังมีการให้เงินอีกคนละ 500 บาท สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่
“มติชนออนไลน์” จึงอยากสอบถามความเห็นผู้อ่านว่า มองว่ามาตรการดังกล่าว เป็นนโยบายที่หวังผลทางการเมืองหรือไม่ อย่างไร
(อ่านข่าว “รบ.”ยันอนุมัติ 8หมื่นล้านไม่เกี่ยวเลือกตั้ง-ซื้อใจคนจน ปีใหม่แจกใส่บัตร ให้คนละ500)
ปรากฏว่า ผลการสำรวจทางทวิตเตอร์พบว่า มีผู้ที่มองว่านโยบายดังกล่าวเป็นการหวังผลทางการเมือง มากถึง 91 เปอร์เซ็นต์ และมองว่าไม่หวังผลทางการเมือง 3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 6 เปอร์เซ็นต์ตอบว่า ไม่รู้เหมือนกัน
ส่วนการสำรวจความคิดเห็นทางเฟซบุ๊ก พบว่า มีผู้ที่มองว่าเป็นการหวังผลทางการเมืองถึง 95 เปอร์เซ็นต์ และไม่หวังผลทางการเมือง 5 เปอร์เซ็นต์
โดยผู้อ่านส่วนใหญ่ เข้ามาแสดงความเห็นว่า นโยบายดังกล่าว หวังผลการเมืองแน่นอนอยู่แล้ว เพราะเป็นการทุ่มเงินเพื่อเอาใจประชาชน เพียงแต่ว่า คนส่วนใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายเหล่านี้ คงไม่เลือกรัฐบาลชุดนี้แน่นอน
มีผู้อ่านรายหนึ่ง แสดงความเห็นว่า ให้ลองพิจารณาดูว่า โครงการนี้ยั่งยืนตลอดไปหรือไม่ ถ้าแจกชั่วครั้งชั่วคราวในล่วงเลือกตั้ง ก็แสดงว่า เป็นการซื้อเสียง อีกความเห็นระบุว่า การสัญญาว่าจะให้ และกำลังจะให้ ภาษาชาวบ้านเรียกว่าตกเขียว ซึ่งก็คือการซื้อเสียงล่วงหน้าดีๆนี่เอง
บางคนเปรียบเทียบว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลชุดนี้ก่นด่าเรื่องนโยบายประชานิยมจะทำให้ชาติบรรลัย แต่มาถึงคราวนี้อยากได้คะแนนนิยมบ้าง ก็ทำได้ทุกอย่างมากกว่าที่เคยก่นด่าเอาไว้
อีกความเห็น ระบุว่า แทนที่จะเอาเงินไปพัฒนาอย่างอื่นให้ยั่งยืนยาว ได้ใช้ประโยชน์จริงๆ ลูกหลานจะได้จดจำ ผู้อ่านอีกคนมองว่า เป็นการซื้อเสียงอย่างถูกกฎหมาย
สามารถอ่านความเห็นทั้งหมดได้ที่
