เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรววพลังงาน และสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) กล่าวว่า ตามที่มติ ครม.ได้อนุมัติการจ่ายเงินรวมแล้วกว่าแสนล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนนั้น เป็นเรื่องที่เหมาะสมเพราะประชาชนเดือดร้อนกันมากมากว่า 4 ปีแล้ว แต่รัฐบาลพึ่งจะมาคิดช่วยไม่นานนี้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งคงปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเพื่อหาเสียงอาจจะไม่ได้เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มีแนวโน้มที่จะอยู่ในรายชื่อผู้เสนอเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองหนึ่งค่อนข้างแน่ และ 4 รัฐมนตรีใน ครม. ก็ได้สังกัดพรรคการเมืองแล้ว
อีกทั้งอาจจะเป็นเพราะตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ได้ทรุดลงอย่างชัดเจน จึงต้องเร่งให้รัฐบาลออกมาแจกเงินเพื่อกลบข่าวภาวะเศรษฐกิจที่จะกลับมาตกต่ำอีกครั้ง และมีแนวโน้มจะตกต่ำต่อไปอีกถึงปีหน้า จึงอาจเป็นความพยายามที่จะรักษากระแสความนิยมก่อนจะตกวูบตามภาวะเศรษฐกิจใช่หรือไม่
ทั้งนี้ การใช้จ่ายหลายเรื่องเป็นภาระผูกพันทางการคลังในอนาคต ซึ่งจะทำให้รัฐบาลในอนาคตมีงบประมาณในการพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆน้อยลง เช่น มาตรการการสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืนที่รัฐบาลนี้ยังไม่ได้ทำ หรือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ เป็นต้น ซึ่งอยากขอถามว่าการแจกเงินดังกล่าวนี้ต่างกับนโยบายประชานิยมที่รัฐบาลนี้โจมตีอยู่เสมออย่างไร อีกทั้งยังไม่มีแนวทางการสร้างรายได้อย่างมั่นคง
ทั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีมาตรฐานเดียวกัน ถ้ารัฐบาลหลังการเลือกตั้งที่มาจากฝั่งประชาธิปไตย จะสามารถมีอิสระในการออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนในลักษณะเดียวกันนี้ได้โดยไม่ถูกสกัดกั้นจากกลเกมตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะเป็นการตอกย้ำตามที่มีนักการเมืองบางพรรคประกาศว่ารัฐธรรมนูญนี้ดีไซน์มาเพื่อพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองของเขาเท่านั้น ไม่ได้เขียนมาเพื่อประชาชนทั้งประเทศ
