วิวาทะ “ท้าปลูกป่าน่าน 5 แสนไร่” จากผู้ว่าฯ น่านเพื่อตอกกลับนักเลงคีย์บอร์ด ส่งให้ประเด็นอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว กลายเป็นเรื่องร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เหล่าคนดังร่วมประกาศลงขัน-สมทบทุน “ปลูกป่า” ทะลุหลักล้าน! ในขณะที่บางเสียงคัดค้าน แนะลงทุนลงแรงไปก็เท่านั้น ถ้าปลายทางคือการเผาทิ้ง-ทำลาย
แต่ที่สุดแล้วการปลูกป่าก็อาจเป็นเพียงโครงการโลกสวยที่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น ถ้าวิเคราะห์จากข้อมูลที่ผู้ว่าฯ จ.น่าน ออกมาชี้แจงเพื่อลดดรามาครั้งล่าสุด จะเห็นว่าภูเขาหัว โล้นที่เห็นๆ กันอยู่ขณะนี้ เป็นปัญหาเรื้อรังมากว่า 10-15 ปี เนื่องจากการปลูกข้าวโพดซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านผู้อยู่อาศัยบนผืนดินดังกล่าว
เหตุเพราะพื้นที่ป่าทั้งหมด 6.4 ล้านไร่ใน จ.น่าน ซึ่งถือเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด ถูกควบคุมโดย พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ปี พ.ศ.2507 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ส่งให้ชาวบ้านไม่สามารถปลูกพืชชนิดอื่นแล้วขายได้ เพราะผิดกฎหมาย จึงต้องปลูกข้าวโพดเลี้ยงชีพ เพราะต้นทุนถูกและง่ายต่อการปลูก จึงส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ “คนหิว ป่าหาย” อย่างที่เป็นอยู่
ในเรื่องนี้ อ. พิชญ์ และคุณสุรนันทน์มองว่าการช่วยกันระดมทุนปลูกป่าเป็นเรื่องที่ดี แต่อาจจะเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ คนไทยกินอาหาร ซึ่งอาหารเหล่านั้นบางส่วนก็ได้ มาจากการบุกรุกป่า เพราะฉะนั้นอย่าไปโทษคนอื่นที่ไกลตัวเรา เราต้องปรับตัวเองด้วย เนื่องจากทุกอย่างล้วนเป็นองค์รวม ไม่ควรมองว่าเรื่องเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับตัวเรา