นคร ปลุก! คนไทยถึงเวลาต้องเลือก “ประชาธิปไตย” หรือ “เผด็จการ” ขอแค่กา “พท.-พช.-ทษช.” ไม่ต้องสนตัวบุคคล
วันนี้ (24 พ.ย.) นายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พิษณุโลก สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ “ขอให้พี่น้องประชาชนยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย” ใจความว่า ระบอบเผด็จการ กำลังใช้อำนาจเผด็จการอย่างเต็มรูปแบบ ผ่าน 5 องคาพยพดังนี้ 1. คสช. ที่ลอกแบบจาก คณะ Politburo ของรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน ใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งต่างๆ 2.ครม.ของรัฐบาลเผด็จการ ที่มีเงินงบประมาณแผ่นดินจากภาษี ใช้จนถึงปัจจุบันประมาณ 20 ล้านล้านบาท 3. ระบบราชการ 400 กรม 20 กระทรวง 4. องค์กรอิสระ 9 องค์กร ที่ไม่ได้อิสระอย่างแท้จริง หากแต่รับใช้เผด็จการ แล้วบ่อนทำลายอำนาจประชาชน 5. ศาลและกระบวนการยุติธรรม รับรองคณะรัฐประหารถือให้เป็นรัฐฐาธิปัตย์
นายนคร ระบุว่า ตอนนี้พวกเผด็จการและเครือข่ายบริวารได้ใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงิน ทั้งซื้อตัวนักการเมืองหลายพรรค หลายกลุ่ม มีการเจรจาต่อรองให้ผลประโยชน์ ล้มคดีที่ถูกกล่าวหาถูกฟ้องร้องให้ยุติคดี หรือหากใครไม่มีคดี ก็สร้างเรื่องกล่าวหาหาคดีให้ต้องตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย เพื่อให้มาอยู่เป็นเครือข่ายเป็นพวกให้เผด็จการสามารถสืบทอดอำนาจต่อไปได้ ขณะเดียวกันก็ทำลายนักการเมือง และพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยไป จึงปรากฏเป็นข่าวที่เห็นในปัจจุบันมีอดีตส.ส. อดีตรัฐมนตรี หลายคนเข้าไปสวามิภักดิ์ สยบยอมเข้าร่วมกับเผด็จการ เข้าร่วมกับพรรคการเมืองที่สนับสนุนเผด็จการเพื่อสืบทอดอำนาจ เสมือนว่า ฝ่ายเผด็จการจะชนะอย่างท่วมท้น ฝ่ายประชาธิปไตยจะพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
“เวลานี้คือห้วงเวลาที่พายุร้ายเผด็จการกำลังปกคลุมประเทศไทยและคนไทย แต่ระบอบประชาธิปไตยต่างหากที่เคารพสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ต่างหากที่จะแก้ไขปัญหาของคนไทยและประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน ฉะนั้นการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ จึงเป็นการเลือกตั้งทางยุทธศาสตร์ ว่า คนไทยส่วนใหญ่ จะให้ประเทศไทย เป็นประชาธิปไตย หรือเป็นเผด็จการ ถ้าคนไทยส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศไทยเป็น ประชาธิปไตย ก็เลือกพรรคที่ต่อต้านเผด็จการ ที่มีพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ ที่ชูธงประชาธิปไตย โดยหาต้องสนใจตัวบุคคล อนาคตของชาติ อนาคตของคนไทย และอนาคตของลูกหลานของเราอยู่ในมือของทุกท่าน เรามาร่วมกันกำหนดอนาคตของชาติด้วยกัน ส่วนผมขอยืนหยัดอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตย และพร้อมที่จะต่อต้านและขับไล่เผด็จการทุกวิถีทาง” นายนคร ทิ้งท้าย
