“วิจิตร”แจงไม่ทิ้ง ชพท. เพราะผูกพันและได้รับความไว้วางใจตั้งเป็นรองหน.พรรคฯ ส่วนกรณีหลานสาวกลายมาเป็นคู่แข่ง ยอมรับกระทบเพราะฐานเสียงเดียวกัน
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน นายวิจิตร พรพฤฒิพันธุ์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคชาติไทยพัฒนา(ชพท.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.พิมพ์พร พฤฒิพันธุ์ หลานสาว สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้รับการจัดวางตัวให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรค พปชร. ที่จะต้องกลายเป็นคู่แข่งว่า เป็นเรื่องของตัวบุคคลและถือเป็นเรื่องปกติ ก่อนหน้านี้ก็พูดคุยกันในครอบครัวพรพฤฒิพันธุ์ กรณีที่อยากให้ตนย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐหลังจากได้รับการติดต่อเชื้อเชิญ แต่ได้ตอบปฏิเสธไปเพราะติดขัดด้วยเหตุผลหลายประการจนเป็นที่เข้าใจกันดี กระทั่งมีการเปลี่ยนตัวไปเป็นหลานสาวแทน ก็ไม่ได้เป็นปัญหาและเคารพการตัดสินใจของทุกๆฝ่าย
นายวิจิตรกล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องตัดสินใจยืนหยัดกับพรรค ชทพ.ต่อไป เพราะทางพรรคฯให้ความไว้วางใจเป็นรองหัวหน้าพรรคฯ และยังให้ดูแลจัดสรรผู้สมัครที่จะลงรับเลือกตั้ง ส.ส.ในภาคเหนือ นอกจากนี้มีความผูกพันที่ทำงานกับพรรคมาค่อนข้างยาวนาน ตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา ยังเป็นหัวหน้าพรรคฯ จึงตัดสินใจยืนหยัดทำงานกับทางพรรค ชพท.ต่อไป
“ส่วนกรณีที่จะต้องมาคู่แข่งขันกับหลานสาวนั้นก็จำเป็นเพราะเป็นเส้นทางการเมือง และถือเป็นเรื่องปกติและก็คงเหมือนครอบครัวนักการเมืองทั่วๆไป อาจจะมีความคิดแตกต่างกันแต่ความสัมพันธ์ก็ยังเหมือนเดิม ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้นก็ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน แต่ทั้งนี้ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อฐานคะแนนเสียงอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นฐานเสียงเดียวกัน ก็เกรงว่าอาจทำให้เสียโอกาสทั้งสองคนก็เป็นได้”นายวิจิตรกล่าว
