3 อจ.มช.-นักกิจกรรม เข้าพบทหารค่ายกาวิละ กรณียืนเฉยๆ ที่ข่วงท่าแพ

SONY DSC

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) นางรจเรข วัฒนพานิช เจ้าของร้านหนังสือ Book re:public นายสุรพงษ์ ศรีพรม อาจารย์โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง อ.พบพระ จ.ตาก เดินทางมาชี้แจงและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางราชการ ตามหนังสือเชิญของมณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 33 ค่ายกาวิละ โดยให้มารายงานตัว ที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระภูมิพลมหาราช มทบ.ที่ 33 ค่ายกาวิละ ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยให้เข้าประตูด้านหลัง ติดกับตลาดสันป่าข่อย แทนประตูด้านหน้าที่ติดริมถนนเชียงใหม่-ลำพูน มี พ.อ.โภคา จอกลอย รักษาการหัวหน้ากองยุทธการ มทบ.ที่ 33 พ.ต.โสภณ ภักดิ์เกษม ผบ.ร้อยที่ 2 กองพันพัฒนาที่ 3 คอยดูแลและอำนวยความสะดวก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด

SONY DSC

รายงานระบุว่า ระหว่างที่ทั้งสามเข้าไปรายงานตัว ได้มีนายชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการอิสระและอาจารย์พิเศษคณะนิติศาสตร์ นายอรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มช. ด.ต.พิชิต ตามูล แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงเชียงใหม่ นายธีรพล คุ้มทรัพย์  จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมอาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษา และนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย กว่า 20 คน มาให้กำลังใจและสังเกตการณ์ โดยนายอรรถจักร์ได้ใช้มือสองข้างตบกับมือนายสุรพงษ์ เพื่อให้กำลังใจ

SONY DSC

Advertisement

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว น.ส.ปิ่นแก้ว นางรจเรข และนายสุรพงษ์ เดินไปที่หอประชุม มทบ.ที่ 33 เพื่อชี้แจงและให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ซึ่งมี 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง โดยไม่ให้ผู้ติดตามและผู้สังเกตการณ์ เข้าไปร่วมรับฟังแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 10.15 น. พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการ มทบ.ที่ 33 ค่ายกาวิละ ได้มาพบกับนายอรรถจักร์ นายปรีชา และกลุ่มอาจารย์ นักวิชาการที่รอการชี้แจงของ 3 นักวิชาการ ที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระภูมิพลมหาราช โดย พล.ต.โกศลกล่าวว่า ไม่มีอะไร เรียกมาพูดคุยกัน เสร็จแล้วก็กลับได้ ไม่มีการควบคุมตัว หรือใช้ความรุนแรง ขอให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ มีกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนแล้ว ด้วยความเป็นห่วง ก็ได้พูดคุยทำความเข้าใจกันแล้ว

SONY DSC

Advertisement

“กรณีการเคลื่อนไหวชุมนุมที่ข่วงท่าแพ รู้เจตนาทำเพื่ออะไร กลายเป็นกระแส ทำให้ลำบากใจ ถ้าปล่อยไป ห่วงคนเลียนแบบ หรือเอาเป็นเยี่ยงอย่างจึงไม่ใช้มาตรการรุนแรง อยากพูดคุยกันมากกว่า อย่าให้ผมใช้ความแข็งกร้าว เพราะอีกไม่กี่เดือน หนีไปอยู่ที่อื่นแล้ว ไปมียศที่สูงขึ้น” พล.ต.โกศลกล่าวก่อนหัวเราะ ซึ่ง พล.ต.โกศลใช้เวลาพูดคุย 5 นาที ก่อนเดินทางกลับ

ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.ปิ่นแก้ว นางรจเรข และนายสุรพงษ์ มาส่งที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระภูมิพลมหาราช ท่ามกลางความยินดีและดีใจ ของผู้มาให้กำลังใจและสังเกตการณ์  โดย น.ส.ปิ่นแก้วกล่าวว่า ทหารได้ชี้แจงว่ายังอยู่ในสถานการณ์พิเศษ หรือไม่ปกติ จึงขอให้ไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง จนกว่ามีการเลือกตั้ง ส่วนการเคลื่อนไหวชุมนุมที่ข่วงท่าแพ ทางทหารอะลุ่มอล่วยให้ ถ้าเคลื่อนไหวอีก จะใช้มาตรการทางกฎหมาย จับกุมและดำเนินคดี เพราะกลัวเป็นเยี่ยงอย่าง พร้อมขอความร่วมมือ หากทำกิจกรรมขอให้แจ้งทหารก่อน ก็จะทำตามเงื่อนไขดังกล่าว

SONY DSC

“ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ขอให้นิยามความหมายกิจกรรมทางการเมือง เพราะการยืน ไม่แสดงสัญลักษณ์ ไม่พูด หรือส่งภาพ และข้อความทางโซเชียลมีเดีย ก็น่าแสดงออกได้ อยากให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ทางวิชาการ ถ้าไม่ให้แสดงความคิดเห็น หรือแสดงออก คงเป็นไปไม่ได้ ควรให้พื้นที่แสดงออกบ้าง อยากฝากผู้บริหารประเทศเข้าใจจุดดังกล่าว สุดท้ายฝากขอบคุณ พล.ต.โกศล ที่ไม่ให้ลงนามบันทึกข้อตกลง หรือเอ็มโอยู เพราะได้พูดคุยทำความเข้าใจทั้งสองฝ่ายแล้ว” น.ส.ปิ่นแก้วกล่าว

สำหรับการเข้าพบครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาขอข้อมูลและสอบปากคำ รวม 2.30 ชั่วโมง ก่อนนักวิชาการทั้ง 3 เดินทางกลับ

SONY DSC

ด้านนายชำนาญ กล่าวว่า เท่าที่สังเกตการณ์ ไม่พบว่าทหารใช้มาตรการรุนแรงอะไร เป็นเพียงให้ น.ส.ปิ่นแก้ว นางรจเรข และนายสุรพงษ์ มาชี้แจงและทำความเข้าใจที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการตามหนังสือเชิญ ซึ่งวิเคราะห์ได้ 2 อย่าง คือ ต้องการข้อมูลจริงหรือไม่ หรือเพียงเรียกมาปรามเท่านั้น ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร เพราะทุกคนปลอดภัยดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image