สถานีคิดเลขที่12 : ฉีกโพลทิ้ง-ส่องแนวรบจริงเลือกตั้ง : โดย จำลอง ดอกปิก

หากตัดเรื่องโฆษณาชวนเชื่อ ผ่านโพลสร้างภาพอวดความนิยม ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของสำนักต่างๆ ที่แพร่หลายออกไป

เนื่องจากน่ากังขา

การเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 ในสายตาฝ่ายการเมือง แชมป์เก่าพรรคเพื่อไทย ยังถูกจัดเป็นมือวางสูงสุด

เต็ง 1 ชนะเลือกตั้ง

Advertisement

ส่วนโพลที่เกริ่นนำนั้น อย่าได้เอามาเป็นสาระมากนัก

สำรวจช่วงเวลาเดียวกัน/ใกล้เคียงกันแท้ๆ แต่ผลกลับออกมาไม่เหมือนกัน

บางสำนัก ระบุ ประชาชนอยากได้คนหนึ่งเป็นนายกฯ แต่อีกสำนักกลับกลายเป็นอีกคน แปรเปลี่ยนไป อย่างไม่น่าเชื่อ

Advertisement

กลายเป็นว่า หากทำ 3 สำนัก ก็จะได้นายกฯในดวงใจ 3 คน แบบไม่ซ้ำหน้า

จนถูกตั้งคำถาม ทำถูกต้องตามหลักวิชาการหรือมีวาระแอบแฝง

ทั้งนี้ เนื่องจาก การวิจัย สำรวจความคิดเห็นประชาชนนั้น มันเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ วิทยาการ ไม่ใช่หมอดูนั่งทางใน

ไม่ว่าใครทำ หากทำถูกต้องได้มาตรฐาน ผลออกมาย่อมตรงกัน ค่าเปอร์เซ็นต์ความคลาดเคลื่อนจะอยู่ในเกณฑ์น้อยมาก

ยกตัวอย่าง การสำรวจความเห็นชาวบ้านที่ใช้ สบู่ 3 แบรนด์ หัวข้อยี่ห้อใดมีคุณภาพ คุ้มกว่ากัน เมื่อสำรวจหมู่บ้านเดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกัน บนพื้นฐานอื่นๆ อย่างเดียวกัน หากทำถูกต้องตามหลักวิชาการ ผลโพล
ออกแต่ละสำนักก็จะออกมาเหมือนกัน หากเห็นว่ายี่ห้อที่ 2 ดีสุด ทั้ง 3 โพลก็ต้องออกมาตรงกัน แต่ค่าเปอร์เซ็นต์ อาจต่างกันได้บ้าง

แต่ถ้าทำโพลที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน คนในหมู่บ้านนี้กลับตอบไม่เหมือนกัน นั่นคือ โพลแรกบอก แบรนด์ 1 ดีสุด สำนักที่สองบอกแบรนด์สอง สำนักที่สามบอกยี่ห้อที่ 3

แสดงว่ามีปัญหา จะต้องมีโพลหนึ่งโพลใดผิดเพี้ยน แน่นอน

วันนี้เร็วไปที่จะตัดสินว่าโพลการเมืองที่ว่อนสื่อ ของใครของมันอยู่นั้น ใครมั่ว ใครแม่น เนื่องจากไม่ใช่โพลสุดท้าย ก่อนวันเลือกตั้ง ที่เมื่อนำผลเลือกตั้งมาเทียบเคียง ก็จะได้คำตอบในที่สุดว่า ใครมั่ว

หรือด้วยเหตุนี้กระมัง แต่ละสำนัก จึงกล้ามั่ว

ระหว่างนี้ก็รับงาน ปิดจ๊อบไปตามความต้องการ สนองงานการเมืองก่อน

ตัดเรื่องโพลออกไป

ของจริงที่เป็นข้อมูลจากพื้นที่ จากฝ่ายการเมืองด้วยกันเอง เพื่อไทยกระแสยังแรง เหนือกว่าพรรคอื่น ไม่ตกต่ำขีดสุด ถึงขั้นที่มองข้ามได้เลย

ไม่ว่าจะพิจารณาจากอดีต ส.ส.เขตส่วนใหญ่ที่ปักหลักอยู่กับพรรคอย่างเหนียวแน่น นโยบายในอดีตที่ถูกใจ บุญเก่ายังไม่สิ้น-กินไม่หมด และการเปรียบเทียบอดีตกับปัจจุบัน ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เรื่องการเมืองการปกครอง ภาวะเศรษฐกิจ ปากท้อง ก็เห็นความต่างความเหมือน

แต่เพื่อไทยไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม

ถูกบี้บด ส่งผลกระทบเกิดเป็นปัญหาภายใน แม้ในเชิงยุทธศาสตร์รวมมีวิธีแก้เกม แต่ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผล

ที่เสียหายใหญ่หลวง ก็การงัดข้อ แตกแยก ต่อสู้กันเองภายใน

วันนี้ใครใหญ่ ใครอยู่ มองเหลี่ยมมุมไหน ก็ไม่ใช่คนมุ่งทำงาน ทุ่มเทเพื่อพรรค เป็นตัวแทนพรรค

แต่เหมือนกับสู้เพื่อสถานภาพ สู้เพื่อตัวเองมากกว่า

ไม่เหมือนในอดีต ที่มีคนในตระกูลชินวัตร หรือคนที่ได้รับการยอมรับมากุมการนำ

เป็นตัวแทนพรรค เป็นแม่ทัพทำงานเพื่อพรรค

ฉะนั้น เพื่อไทยถึงแม้กุมความได้เปรียบ แต่ก็เป็นความได้เปรียบ ที่มีปัญหาให้ต้องแก้ไข เดินอย่างเป็นขบวน

ขณะที่พรรคคู่แข่งสำคัญอย่างพรรคตัวแทนรัฐบาล พลังประชารัฐนั้น

ตกเป็นรองก็จริง

แต่ก็มีแต้มต่อ เสียงรองรัง ไม่จำเป็นต้องชนะเลือกตั้ง แค่ได้เสียงจำนวนหนึ่งไม่มาก-ไม่น้อย ก็ถึงฝั่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้

มิหนำซ้ำพลังประชารัฐ ยังมีจุดแข็ง กำลังภายใน ที่ไม่มีพรรคใดมี

การใช้ ม.44 เปิดทาง รื้อแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นตัวอย่าง เรียกน้ำย่อย

ว่ากันว่า เมื่อเห็นตัวเห็นตน คนที่จะลงสมัครชัดเจน ใครพื้นที่ไหน การแบ่งเขต ตีเส้นใหม่เลี้ยวลด ก็เท่ากับใส่สกอร์ นับเก้าอี้ ส.ส.เขตเบื้องต้นได้จำนวนที่แน่นอนหนึ่ง

ยังไม่เข้าโหมดเลือกตั้ง ยังงัดเครื่องมือทุ่นแรง ตัวช่วยมาใช้ขนาดนี้

เลือกตั้ง จะระดมสรรพกำลังขนาดไหน

เพื่อไทยถึงเป็นมือวางสูงสุด แต่ก็ไม่เคยเจอสถานการณ์-คู่แข่งแบบนี้มาก่อน

โจทย์ยากชนะ แถมบีบให้ต้องได้ ส.ส.จำนวนมากอีกด้วย จึงไม่ง่ายแน่นอน

ต่างกับพลังประชารัฐแค่แพ้น้อย ก็ชนะลอยลำ

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image