‘นิธิ’ ชี้ปัญหาเพื่อไทยอยู่ที่จุดยืน ผู้นำประนีประนอม ไม่ชัดเจน จะเอายังไงกับมรดกคสช. เชื่อ แตกพรรคไม่การันตี คนรักทักษิณงงแน่ กาใครไหนดี
วันนี้ (1 ธ.ค.) ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์และคอลัมนิสต์ชื่อดัง กล่าวถึงสิ่งที่พรรคเพื่อไทย(พท.)ต้องปรับตัว ว่า พท.มีความชำนาญทางการเมืองมากกว่าตน แต่สิ่งที่เขาทำคงเป็นประโยชน์ทางการเมืองสำหรับเขา โดยเฉพาะการเลือกตั้ง แต่ในทัศนะของตนกลับคิดว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เราต้องการพันธะผูกพันจริงๆว่า คุณจะจัดการกับความยุ่งยากที่คสช.ทำเอาไว้ในระยะ 4-5 ปี ที่ผ่านมาอย่างไร เพราะมันจะผูกพันประเทศตลอดไป ถ้าคุณไม่แก้ตอนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนไม่ได้ยินจากพรรคเพื่อไทย แล้วก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญค่อนข้างมาก เช่น รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้ไม่ได้ สิ่งที่ออกเป็นคำสั่งคสช. มาตรา 44 ของหัวหน้าคสช.หลายเรื่องด้วยกันต้องยกเลิกทันที เพราะว่าก่อให้เกิดความยุ่งยากมาก กฎหมายที่ดินที่ผ่านสภามาแล้ว ต้องยกเลิกแล้วออกกฏหมายใหม่ เนื่องจากที่เป็นอยู่เวลานี้เป็นการ์ตูนเป็นตลก ซึ่งข้อผูกพันที่คสช.ได้ทำเอาไว้ มองไปที่พรรคพท.ตนไม่แน่ใจว่าจะแก้หรือไม่ และไม่ทราบคนอื่นคิดอย่างไร
“ยิ่งช่วงหนึ่งที่มีการบอกว่าจะเอา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาเป็นหัวหน้าพรรค ด้วยข้ออ้างว่าคุณหญิงสุดารัตน์เข้าได้ทั้งสองฝ่าย ถ้าเข้าได้ทั้งสองฝ่าย ผมก็ไม่เลือกสิว่ะ ผมคิดว่าถึงช่วงที่สังคมไทยต้องตัดสินใจให้แน่ว่าคุณจะเดินไปข้างหน้ายังไง และคิดว่าที่ก่ำๆกึ่งๆขอเป็นรัฐบาลอย่างเดียวโดยไม่คิดที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ผมว่าพอกันที จบแล้ว ฉากแบบนั้น แต่เขาอาจจะเก็บการเมืองไทยได้เก่งกว่าผม เขาอาจจะได้รับเลือกตั้งจำนวนมากก็ได้ ผมไม่ทราบเหมือนกัน” ศ.ดร.นิธิ กล่าว
เมื่อถามว่า การเกิดขึ้นของยุทธศาสตร์แตกแบงค์พันเป็นแบงค์ร้อยจะเป็นยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องของพรรคพท.หรือไม่ ศ.ดร.นิธิ กล่าวว่า ตนเก็งไม่ถูกเหมือนกัน เพราะถ้าพรรคพท.ได้คะแนนส.ส.เขต จำนวนมากโอกาสที่จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อก็หมดไปในรัฐธรรมนูญนี้ เพราะฉะนั้นต้องไปตั้งพรรคอีกพรรค เพื่อเก็บคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อ คือ คะแนนส.ส.เขตอาจจะไม่ได้ แต่คะแนนรวมต้องได้ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวนหนึ่ง
“ปัญหาสำหรับคนเลือกตั้งคือมีสิทธิกาบัตรได้ใบเดียว ผมจะโยนที่พรรคไหนดี สมมติผมหลงรักคุณทักษิณเหลือเกิน ผมจะหย่อนอันไหนดี ไม่รู้จะตัดสินใจยังไง มันยุ่งแบบนี้ ผมเลยไม่แน่ใจว่า คุณเป็นคนคิดฝ่ายเก็บคะแนน ประชาชนเป็นคนให้คะแนน ซึ่งมีอยู่เสียงเดียวอาจจะคิดไม่ตรงกันก็ได้ เพราะงั้นผมไม่รู้ว่ายุทธศาสตร์นี้เป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้ได้หรือไม่ แต่ชี้ให้เห็นว่า พอใช้รัฐธรรมนูญฉบับที่มันกำหนดอะไรที่ไม่เป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ มันทำลายกระบวนการเลือกตั้งลงไปทันที ถามว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีหรือไม่ สำหรับคนที่มองการเมืองใสๆ หน่อย ผมคิดว่ามันไม่ดี คุณไม่ได้คิดอะไรมากเลย เพียงแต่คุณอยากเอาเก้าอี้มากๆเท่านั้นเอง ในขณะเดียวกันก็เห็นใจเขา ภายใต้เงื่อนไขที่มันไม่มีเหตุมีผลแบบนี้ เขาก็ต้องใช้วิธีแบบนี้คือไม่มีเหตุมีผลเหมือนกัน วิธีที่ดูเหมือนคล้ายโกงๆเหมือนกัน” ศ.ดร.นิธิ กล่าว
