“บิ๊กตู่” แนะ คนอีสาน รักให้ถูกคน รบ.หน้าเลือกให้ดี อย่าเลือกคนที่พูดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย

นายกฯ เปิดฝายโครงการ”ป่ารักษ์น้ำโล่ใหญ่ชัยภูมิ” ชี้คนอีสานแท้รักใครรักจริง แนะรักให้ถูกคน อย่าเลือกที่พูดเพียงปากเปล่า ขอทุกคนร่วมรักษาสถาบันเป็นหลักชัยของประเทศใครมาดูถูก-ล่วงเกินไม่ได้เด็ดขาด

เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 3 ธันวาคม ที่อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เดินทางมายังบริเวณจุดชมวิวผาง่ามมรกต อุทยานแห่งชาติตาดโตน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เพื่อเยี่ยมชม นิทรรศการสร้างน้ำ สร้างป่า และการกระจายน้ำ พร้อมเป็นประธานในพิธีเปิดฝายลำดับที่ 111 และเปิดระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ โดยโอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ได้ปลูกต้นรวงผึ้งภายใต้โครงการ”ป่ารักษ์น้ำโล่ใหญ่ชัยภูมิ” ก่อนกล่าวกับประชาชนจำนวน 10,000 คน ตอนหนึ่งว่า ตนเองเป็นลูกอีสานเหมือนกัน รู้ว่าทุกคนเหนื่อย ร้อนและลำบาก จึงต้องมาเยี่ยม ตนรักทุกคนรวมถึงพี่น้องชาวอีสาน และชัยภูมิ เพราะแม่ของตนเป็นคนชัยภูมิ และตัวเองจะเกิดที่โคราช แต่เป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ทั้งนี้ คนอีสานแท้จริง รักใครรักจริง แต่ขอให้รักให้ถูกคน โดยรักคนที่เขาจริงใจและทำงานให้กับเรา ไม่ใช่ที่พูดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ดังนั้นรัฐบาลหน้าก็ต้องเลือกให้ดีและต้องพูดว่าทำอะไรให้ ไม่ใช่พูดแค่ปากเปล่า อย่างไรก็ตามบ้านเมืองนี้เป็นของพวกเราทุกคน ไม่ใช่เป็นของนายกฯ คนเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามโครงการบางสะพุง ที่จ.ชัยภูมิ มีการขอกันมาตลอด แต่มาสำเร็จปี 2561 กี่ปีมาแล้ว เมื่อเช้าเจอนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ก็บอกว่าเคยไปนั่งร้องไห้มาแล้ว ซึ่งรัฐบาลนี้ไม่ต้องมาร้องกับตน แต่รัฐบาลนี้ร้องอีกแบบ เพราะมีรายละเอียดทุกอันและมีแผนแม่บทในการพัฒนา และทุกอย่างรัฐบาลนี้ทำเต็มที่อย่าบอกว่าดูแลคนรวยอย่างเดียว อีกทั้งหลายอย่างมีกติกา มีกฎหมาย รัฐบาลนี้ต้องคำนึงถึงทุกอย่าง และมองอนาคต 20 ปี อย่างไรก็ตามความเป็นคนไทย มีรอยยิ้มและสมานฉันท์ ใครไม่ยิ้มแสดงว่าไม่ชอบตน แต่ใครยิ่งไม่ชอบตนก็ต้องยิ่งลงมา ไม่ต้องขออะไรก็ยิ่งต้องให้ เพราะให้ด้วยกติกาที่มีอยู่ ซึ่งเรามีกติกา ยุทธศาสตร์ แผนแม่บท กฎหมาย และรัฐธรรมนูญ รวมถึงกฎหมายลูกอีกหลายร้อยฉบับ ซึ่งไม่ได้มีไว้จับประชาชน แต่เพื่ออำนวยความสะดวก ขณะเดียวกันอยากให้ทุกคนจำไว้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันนี้ และ4 ปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ซึ่งสมัยก่อนบ้านเดียวกันยังคุยเรื่องการเมืองกันไม่ได้ แล้วแต่ใครจะมาปลุกใคร ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเบ่นนั้นไม่ได้แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้รัฐบาลอาจเป็นผู้ร้าย เพราะเราเป็นคนธรรมดาเช่นเดียวกับทุกคน ดังนั้นการที่นายกฯมา มาต้อนรับอย่าคิดว่าเป็นเจ้านาย เพราะเราเป็นคนร่วมชาติ มาทำงานให้ท่าน ใครมาว่าอะไรก็ช่วยแก้ให้ตนหน่อย ส่วนตัวไม่มีอะไร มีแต่ใจที่ให้ท่าน ย้ำว่าเข้ามาไม่ได้ต้องการอะไรทั้งสิ้น ต้องการให้สิ่งเหล่านี้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าในทุก 5 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ขอให้ฟังนายกฯให้มากขึ้น หรือไม่ก็ฟังโฆษกรัฐบาล หรือเปิดอ่านในเว็บไซต์ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันข้าราชการในพื้นที่ต้องรู้โยบาย รู้การปฎิบัติของกรม

Advertisement

“วันนี้ขออย่ารังเกียจ คสช. ที่ใช้อำนาจจัดสรรที่ดินให้ที่อยู่อาศัย 70 กว่าประเทศแล้ว ซึ่งสิ่งที่ทำไม่ได้เป็นบุญคุณกับท่าน และที่มาพูดวันนี้ผมจะได้ทำงานสำเร็จ และขอให้อ่านหนังสือพิมพ์หรือฟังที่ผมพูดในวันศุกร์ด้วย ทั้งนี้คนไทยน่ารัก เชื่อง่าย เลยมีคนใช้ประโยชน์จากตรงนี้ ไม่อยากคนให้เอาความเป็นคนดีของเรามาใช้ ผมถือว่านับถือพระพุทธศาสนาอย่างเต็มตัวและเต็มใจ มีหน้าที่ทำเพื่อประชาชน ขอพูดเลยแล้วกันการเมืองกำลังเดินหน้าอย่าให้การเมืองทำบ้านเมืองแย่กว่าเดิม ทุกคนรู้อะไรดีไม่ดี ที่ท่านรู้มาว่าเกิดอะไรขึ้น 4 ปีที่ผ่านมา ความมั่นคง การแก้ไขปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่ ทุกคนต้องทบทวนบางทีอาจจะลืมง่าย พอ 4 ปีแล้ว ก็เอากันใหญ่โต”นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า นายกฯปฏิเสธที่จะรับสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคลที่พระสงฆ์จะมอบให้กับนายกฯ ซึ่งนายกฯ กล่าวรับไว้และให้พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯรับแทน หรือผ้าขาวที่มักจะมีชาวบ้านนำมาผูกคาดเอวให้กับนายกฯ ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ แต่ปรากฎว่าครั้งนี้นายกฯ จะบอกกับชาวบ้านให้เก็บเอาไว้ใช้เอง ตนมีพอแล้ว มีเยอะแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image