หยิกเล็บ เจ็บเนื้อ จากเดิน ‘คารวะ’ แผ่นดิน ถึง พลังประชารัฐ

บทสรุปจากปฏิบัติการ “เดินคารวะแผ่นดิน” ของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่นำโดย นายสุเทพ       เทือกสุบรรณ ทรงความหมายยิ่งในทางการเมือง

1 เพราะเท่ากับเป็นการวิจัย

ไม่เพียงเป็นการวิจัยในพื้นที่ กทม. หากแต่ยังเป็นการวิจัยในพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคกลางและทะลุทะลวงไปยังภาคใต้

1 สัมผัสได้ในปัญหาทาง “เศรษฐกิจ”

Advertisement

ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านใน กทม. ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านในภาคตะวันออก ภาคกลาง ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านใน   ภาคใต้สะท้อนออกมาตรงกัน

นั่นก็คือ ชีวิตความเป็นอยู่ “สาหัส”

น่าสังเกตว่า บทสรุปจาก “เดินคารวะแผ่นดิน” แตกต่างไปจากภาพที่ปรากฏผ่าน “ครม.สัญจร” แตกต่างไปจากที่ปรากฏผ่าน “สามมิตรสัญจร”

Advertisement

กลับตรงกับเสียงจากเพื่อไทย อนาคตใหม่ ประชาธิปัตย์ มากกว่า

 

หากมองจากพื้นฐานของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หากมองจากพื้นฐานและการก่อรูปขึ้นของพรรครวมพลังประชาชาติไทย

บทสรุป “เดินคารวะแผ่นดิน” แปลก และ แปร่ง

จำได้ว่า 1 ปีแรกของรัฐประหาร เกษตรกรชาวสวนยาง สวนปาล์มน้ำมัน ในภาคใต้ประสบปัญหาการทรุดเสื่อมของราคาพืชผลทางการเกษตร และคิดจะเคลื่อนไหว

แต่ถูกเบรกจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

เป็นเสียงเบรกขอให้เวลารัฐบาลอย่าเพิ่งกดดัน บนพื้นฐานที่ว่าเพราะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เห็นว่ารัฐบาลหลังรัฐประหาร

เป็น “รัฐบาลของพวกเรา”

จึงไม่แปลกที่แม้กระทั่งเมื่อร่วมส่วนในการจัดตั้งและสร้างพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคๆ นี้ก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งภายในพรรคตระกูล “พลัง”

บทสรุป “เดินคารวะแผ่นดิน” จึงต่างออกไป

 

ความต่างที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และคณะ “เดินคารวะแผ่นดิน” ไม่เพียงแต่สวนทางกับบทสรุปอันออกมาจาก คสช. อันออกมาจากรัฐบาล

หากแต่ยังต่างไปจากเสียง “พลังประชารัฐ”

การมอบหมายให้ นายอุตตม สาวนายน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายกอบศักดิ์     ภูตระกูล ไปอยู่ในสถานะหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรค ภายใต้ธงของ     “พลังประชารัฐ”

เท่ากับต้องการชูความสำเร็จด้าน “เศรษฐกิจ” มาเป็น “จุดขาย”

เท่ากับต้องการยืนยันให้เห็นว่า ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนับแต่เดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา จะเป็นปัจจัยสำคัญในชัยชนะ

ทำให้การสืบทอดอำนาจของ คสช.ดำเนินไปอย่างงดงาม

พลันที่บทสรุปอันพรรครวมพลังประชาชาติไทยได้มาจาก “เดินคารวะแผ่นดิน” แถลงออกมา ผลก็คือปราสาททรายอันก่อรูปขึ้นก็พังครืน

 

กระบวนการสำแดงออกของพรรครวมพลังประชาชาติไทยและ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต่อบทสรุปจากปฏิบัติการ “เดินคารวะแผ่นดิน”

ดำเนินไปในเชิง “ยุทธวิธี” หนึ่งในทางการเมือง

แต่ยุทธวิธีนี้จะมีผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งกระทบต่อ “ยุทธศาสตร์” ใหญ่ของ คสช.และรัฐบาลที่กำหนด ผ่านพรรคพลังประชารัฐอย่างมีนัยสำคัญ

เท่ากับหยิกเล็บเจ็บไปถึงเนื้อ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image