นี่เป็นอีกจังหวะก้าวหนึ่ง ซึ่งแหลมคมยิ่งในทางการเมืองเมื่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เสนอประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับการสืบทอดอำนาจขึ้นมา
เป็นการเสนอไม่เพียงแต่ 1 จากผู้คร่ำหวอดทางการเมือง
ขณะเดียวกัน 1 เป็นการเสนอในฐานะที่เป็นผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ
สำคัญยิ่งกว่านั้น 1 เป็นการเสนอภายหลังการประชุมคณะกรรมการ
อาจกล่าวได้ว่าการยกประเด็น “การสืบทอดอำนาจ” มาเป็นวาระสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ มีความหมายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคำประกาศเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ในที่ประชุมใหญ่เพื่อเปิดตัวกลุ่มสามมิตรในพรรคพลังประชารัฐที่ว่า
“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”
เพราะเชื่อได้เลยว่า นับแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป กระบวนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลายเป็น “วาระ” สำคัญของการเลือกตั้ง
ต้องยอมรับว่า บทสรุปในเชิง “ทฤษฎี” ที่ยกมาเพื่อปฏิเสธว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความคิดในเรื่องการสืบทอดอำนาจ
แสดงความชาญฉลาดอย่างแหลมคม
1 ได้ยกตัวอย่างตำแหน่ง ผบ.ทบ.จากยุค พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท มายังยุค พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่ามิได้เป็นการสืบทอดอำนาจ
เพราะทั้งสองท่านนี้มิได้เป็น “บูรพาพยัคฆ์”
1 ได้ยกตัวอย่างอย่างมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขต ไม่ว่าผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ล้วนไม่มีนายพลทหาร มีแต่นักการเมืองพลเรือนล้วนๆ
“อย่างนี้จะถือว่าสืบทอดอำนาจได้อย่างไร”
แม้ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะศึกษามาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ แต่ก็อยู่ในแวดวงการเมืองตั้งแต่ยุคพรรคกิจสังคม ผ่านยุค รสช. คมช. มาจนถึง คสช.
จึงแตกประเด็น “สืบทอดอำนาจ” ได้อย่างมากด้วยสีสัน
ปมเงื่อนอยู่ตรงที่ว่า พรรคการเมืองอื่นจะมีความเห็นด้วยกับเหตุผลที่พรรคพลังประชารัฐโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ยกมาหรือไม่
ไม่ว่าจะพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะพรรคภูมิใจไทย
เพราะแม้กระทั่งภายในพรรคพลังประชารัฐเอง หรือพรรคตระกูลพลังอื่นๆ อย่างพรรครวมพลังประชาชาติไทยก็เห็นชอบกับการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
ถึงกับระบุว่า มีความจำเป็นต้องให้มีการสืบทอด
นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ก็สรุปตั้งแต่ผลการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 มาแล้วว่า
มีแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้นที่ปฏิรูปประเทศได้
และในเดือนพฤศจิกายน 2561 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็เป็นคนที่สรุปด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูง
“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”
ไม่ว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ.2521 ไม่ว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ.2534 ยกร่างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายในการสืบทอดอำนาจ เพียงแต่ให้กับ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ และ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เท่านั้น
ประชาชนมีหู ประชาชนมีตา
ที่สำคัญหูของประชาชนไม่ใช่หูกระทะ ที่สำคัญตาของประชาชนไม่ใช่ตาไม้ไผ่ หากแต่สามารถได้ยิน หากแต่สามารถมองเห็น
จึงได้เข้าใจ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ จึงได้เข้าใจ พล.อ.สุจินดา คราประยูร
