⦁…หลังจัดการประเทศโดยการใช้อำนาจเข้มข้นมา 5 ปี “การเลือกตั้ง” ที่กำลังจะเกิดขึ้นควรจะเป็น “ความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในประชาธิปไตยที่มั่นคง” ทว่าหาเป็นเช่นนั้นไม่ กลับมากมายด้วยความหวั่นไหวว่าการเมืองจะวุ่นวายหนักกว่าเก่า ด้วยส่อแววว่า “การไม่ยอมรับในอำนาจ” เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเสียอีก
⦁…ชัยชนะในการเลือกตั้งที่จัดการให้เกิดขึ้น โดย “ยอมแลกกับการสูญเสียหลักการคุณธรรมความชอบธรรมตามกติกาประชาธิปไตยสากล” แน่นอนเป็นชัยชนะที่ง่ายดายต่อการขึ้นสู่อำนาจ แต่ผู้มีประสบการณ์ย่อมประเมินได้ว่า “การรักษาอำนาจไว้เป็นความยากเย็น” เพราะ “ชัยชนะที่ไม่ชอบธรรม” นั้นอย่าว่าแต่ “มนุษย์” ยากจะยอมรับ กระทั่ง “สัตว์โลกทุกชนิดก็ล้วนมีสำนึกในทางต่อต้าน”
⦁…ฟังมาว่า “การสืบทอดอำนาจ” ไปไกลถึงขั้นกำหนดพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นแกนหลักไว้เรียบร้อยแล้วมี “พลังประชารัฐ ภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์” หวังแค่รวมได้ “200 เสียงจากการเลือกตั้ง” เพื่อบวกกับ “250 เสียง ของ ส.ว.” ในการส่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็น “นายกรัฐมนตรี”
⦁…ความเข้มข้น ณ ขณะนี้คือการทำให้ “พรรคประชาธิปัตย์” ดูไม่เสียหลักการมากนัก มีความคิดว่า วิธีที่จะไปได้สวยคือให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำท่าลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อรักษาหลักการไว้ จากนั้นตอบแทนด้วย “กระทรวงใหญ่” เพียงแต่วิธีนี้ “อภิสิทธิ์รอดแต่ ประชาธิปัตย์” จะเข้าสู่ “พรรคตลก” สำหรับประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์
⦁…ความว่าความน่าสนใจอยู่ที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะยอม “จบชีวิตการเมือง” ของตัวเองในสภาพเช่นนั้นหรือ ด้วย “วัย” ที่ยังไปต่อได้อย่างยาวไกล เชื่อว่าเกม “ดูดประชาธิปัตย์” หลังเลือกตั้งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ถึงอย่างไร “ผู้ที่อาศัยหลักการประชาธิปไตยเป็นหัวโขนใส่โชว์ประชาชนมาตลอดชีวิตการเมือง” อย่างผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลายในประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะผู้มีบารมีสูงยิ่งอย่าง ชวน หลีกภัย น่าจะคิดอะไรมากกว่าปล่อยให้ “ประชาธิปัตย์เป็นเพียงอะไหล่เผด็จการ”
⦁…เพราะความเชื่อว่า รัฐบาลหลังเลือกตั้ง “คงอยู่ยาวได้ยาก ความคิดหนึ่งจึงเกิดขึ้นคือ คือ ปล่อยให้ทำลายหลักการและคุณธรรมประชาธิปไตยกันอย่างเต็มที่” เพื่อตอกย้ำให้ทั้ง “ในประเทศและทั่วโลก” ได้รับรู้ถึง “ความไม่ชอบธรรม” นั้นโดยมีความหวังว่า “การเลือกตั้งครั้งต่อไป” ที่น่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนักเสียงเรียกหา “ความชอบธรรม” จะกระหึ่ม และนั่นจะเป็นโอกาสของฝ่ายที่ต้องอาศัยอำนาจประชาชน “เป็นฐานส่งสู่ผู้บริหารประเทศ…”
⦁…ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สงสัยว่าบางพรรคไม่เข้าร่วมรับฟัง “คำชี้แจงจาก คสช. เรื่องเลือกตั้ง” ความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เมื่อชัดเจนว่า “เป็นคู่แข่งในการเลือกตั้ง” ไม่ใช่แค่กรรมการ “ย่อมเป็น” เรื่องพิลึก “มากกว่าที่จะกำหนดให้คู่ต่อสู้” ต้องมารับฟังเพื่อยอมรับเงื่อนไขที่ตัวเองกำหนด
ชโลทร
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่