เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ธันวาคม ที่ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมชี้แจงแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมืองเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไป มีตัวแทนจากส่วนต่างๆ ประกอบด้วย คสช. คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.และ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. นายศุภชัย ยาวะประภาษ กรธ.
ด้านตัวแทนพรรคการเมือง จากพรรคต่างๆ 75 พรรค อาทิ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค นายวิเชียร เชาวลิต นายทะเบียนพรรค พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) นำโดย นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นำโดย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม กรรมการบริหารพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นำโดย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค พล.อ.ฐิติวัฒน์ กำลังเอก รองหัวหน้าพรรค พรรคพลังชล นำโดย นายสุระ เตชะทัต โฆษกพรรค พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นำโดย นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค พรรคเกียน นำโดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หัวหน้าพรรค
ทั้งนี้ การหารือดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 ที่กำหนดให้ คสช.ต้องหารือผู้ที่เกี่ยวข้องถึงความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งที่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมหารือเป็นพรรคขนาดเล็กและขนาดกลาง ขณะที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ปฏิเสธเข้าร่วมการหารือในครั้งนี้ และเป็นที่น่าสังเกตว่าการหารือครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในอาคารและห้องประชุม มีเพียงอนุญาตให้ช่างภาพเข้าไปถ่ายภาพช่วงต้นของการหารือเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วมหารือสามารถนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปในห้องประชุมได้ แตกต่างจากการหารือครั้งแรกที่ไม่สามารถนำเข้าไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มการหารือ นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ นำกลุ่มปฏิรูปการเมือง 20 พรรค ยื่นหนังสือถึงนายกฯเพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกผู้แทนพรรคประจำจังหวัด เนื่องจากไม่ต้องมีการทำไพรมารีโหวตแล้ว พร้อมกับขอให้ออกคำสั่งให้ กกต.จัดพิมพ์โลโก้พรรคการเมืองในบัตรเลือกตั้งให้ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ในการประชุมจัดทำแผน ขั้นตอนการดำเนินการทางการเมืองและแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อพรรคการเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไป ได้จัดที่นั่ง 6 คน ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายวิษณุ เครืองาม นายพรเพชร วิชิตชลชัย นายอิทธิพร บุญประคอง และนายศุภชัย ยาวะประภาษ
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเริ่มการประชุมว่า ในการพบกันระหว่างพรรคการเมืองและแม่น้ำ 5 สายวันนี้ เนื่องด้วยคสช.และรัฐบาล มีหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความปลอดภัย ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความสงบเรียบร้อยในช่วงต่อจากนี้เป็นต้นไป รวมถึงที่ผ่านมาด้วยตลอด 4 ปี การประชุมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ครั้งแรก พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน ซึ่งเป็นไปตามคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ข้อ 8 เมื่อมีการประกาศพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ก็จัดให้มีการประชุมร่วมกัน เพื่อหารือ จัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พร้อมขอบคุณทุกคนที่ให้เกียรติมาร่วมประชุมในวันนี้ ถือเป็นก้าวแรกของการเดินหน้ากลับสู่การเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย ในการสร้างการรับรู้ ความมั่นใจ และความเข้าใจ ในแต่ละฝ่ายที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ของตนต่อไป ถือเป็นการสร้างบรรยากาศความสามัคคีปรองดอง ขอให้เป็นการหารือกันฉันมิตร เป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างหนึ่ง หลายพรรคประกาศและให้สัมภาษณ์ว่า ยินดีจะมาร่วมวันนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความตั้งใจที่จะช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อย ส่วนบางพรรคการเมืองที่ประกาศว่าไม่เข้าร่วมประชุม ก็ไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง ว่าเข้าใจอะไรถ่องแท้แล้วถึงไม่มา หรือตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ร่วมมือกับทุกภาคส่วน
จากนั้นนายวิษณุชี้แจงว่า โรดแมปทางการเมืองตามที่รัฐบาลเคยชี้แจงให้กับที่ประชุมรับทราบ ในเดือนธันวาคม 2561 ก่อนประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) การเลือกตั้ง จะปลดล็อกการทำกิจกรรมทางการเมือง คำสั่งและประกาศ คสช. จำนวน 9 ฉบับ (ยกเว้นในข้อที่ไม่เกี่ยวกับการทำกิจกรรม) และในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ กกต.จะประกาศใช้ระเบียบการเลือกตั้ง ส.ส. จากนั้นวันที่ 28 ธันวาคม รัฐบาลจะหยุดเสนอร่าง พ.ร.บ.ให้กับ สนช.
ส่วนเดือนมกราคม 2562 ในวันที่ 2 มกราคม ประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้หาเสียงได้ วันที่ 4 มกราคม กกต. ออกประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัคร ส.ส. จำนวน ส.ส.แต่ละจังหวัด เขตเลือกตั้ง สถานที่รับสมัครแบบบัญชีรายชื่อ และในระหว่างวันที่ 14-18 มกราคม 2562 เปิดรับสมัคร ส.ส. จำนวนและให้แจ้งชื่อผู้ที่พรรคจะเสนอเป็นนายกฯ วันที่ 25 มกราคม 2562 ประกาศรายชื่อผู้สมัครแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อของทุกพรรค
สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ในวันที่ 4-16 กุมภาพันธ์ เป็นวันเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และกำหนดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ หยุดการพิจารณากฎหมาย จากนั้นที่ 17 กุมภาพันธ์ เป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า และวันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็นวันเลือกตั้งทั่วไป (ตามข้อเสนอของ กกต.)
ขณะที่เดือนเมษายน 2562 ในวันที่ 25 เมษายน เป็นวันสุดท้ายของการประกาศผลการเลือกตั้ง และในวันที่ 28 เมษายน เป็นวันสุดท้ายที่ คสช. จะคัดเลือก ส.ว.250 คน นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายและประกาศแต่งตั้งต่อไป
จากนั้นในวันที่ 9 พฤษภาคม จะเป็นวันสุดท้ายของการประชุมรัฐสภาครั้งแรก และจากนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา เลือกนายกรัฐมนตรี ตั้ง ครม.และ ครม.ถวายสัตย์ฯ ซึ่ง ครม.และ คสช. จะพ้นจากตำแหน่ง และ ครม.ใหม่แถลงนโยบาย (ภายในเวลา 15 วัน นับแต่วันถวายสัตย์ฯ)