แกนนำนปช.จี้ความคืบหน้าคดี 99 ศพ ณัฐวุฒิ ชี้คดีนี้กลายเป็น “โจ๊ก” ไม่ใช่ ตลก แต่ “เละ” ดีเอสไอย้ำทำคดีตามขั้นตอน ตั้งชุดทำงาน เรียกจนท.รัฐสอบ พร้อมแถลงความคืบหน้า
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 ธ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นางธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมายังดีเอสไอ เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 หรือคดี 99 ศพ โดย มีพ.ต.ต.วรนันท์ ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง ซึ่งใช้เวลาพูดคุยประมาณ 30 นาที
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนได้พบกับ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชุดพนักงานสอบสวนเดิมที่ทำคดีดังกล่าว และพนักงานสอบสวนชุดใหมที่เข้ามารับช่วงต่อ ซึ่งตนได้ตั้งคำถามถึงการกรณีสำสวนผู้เสียชีวิต และผู้บบาดเจ็บซึ่งดีเอสไอก็ได้ชี้แจงขั้นตอนว่าคดีดังกล่าวดีเอสไอได้ดำเนินคดีกับผู้สั่งการ แต่เมื่อมีฟ้องร้องต่อศาล จนกระทั่งศาลวินิจฉัยว่า ดีเอสไอไม่มีอำนาจการสอบสวน เป็นอำนาจการสอบสวนของป.ป.ช. ทางอัยการจึงส่งสำนวนให้ทางป.ป.ช.และทางป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนให้ดีเอสไอก็เข้าไปดำเนินการให้ในการตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีเมื่อช่วง ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้ชี้แจงว่าตอนนี้ดีเอสไอได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อทำคดีดังกล่าวจำนวน 5 ชุด ได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน เรียกเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาให้ปากคำไปแล้ว บางรายก็ทำหนังสือไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อเชิญตัวเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำ ดังนั้นหลังจากนี้คดีดังกล่าวจะต้องไม่ย้อนหลังไปกว่านี้
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ตนได้ถามถึงกรอบเวลาในการทำงาน ซึ่งทางดีเอสไอไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนเรื่องกรอบเวลา ทั้งนี้ยังได้สอบถามเรื่องสำนวนที่ยังไม่ได้ยื่นศาลไต่สวนนั้นจะดำเนินการอย่างไร ดีเอสไอระบุว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ เป็นขั้นตามกฎหหมายที่จะต้องส่งสำนวนไต่สวนการเสียชีวิต ที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็หมายถึงตำรวจในพื้นที่ตำรวจนครบาล แต่มีการระบุว่าเจ้าหน้าที่มีความเห็นเป็น 2 แบบ ว่าเห็นควรส่งคดีให้ศาลไต่สวน กับไม่ต้องส่งศาลไต่สวน ตนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงแตกต่างกัน ทำไมเป็น 2 มาตรฐาน ทั้งที่เป็นปฏิบัติตามข้อกฎหมายเดียวกัน ซึ่งตนและแกนนำคงจะต้องไปสอบถามความคืบหน้ากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นกัน
“ผมขอตั้งคำถามรู้สึกแปลกประหลาดกันหรือไม่ มีการตายเกิดขึ้น 99 ศพ แต่มีการส่งสำนวนให้ศาลไต่สวนเพียง 20 กว่ารายอีกกว่า70ราย ยังไม่มีการยื่น ดีเอสไอตอบว่าเป็นความเห็นแตกต่างกันของเจ้าหน้าที่ บางส่วนเห็นว่าต้องยื่นศาลไต่สวนสาเหตุการตาย ทั้งหมดบางส่วนเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องยื่นศาลไต่สวนการตาย โดยมีสาระสำคัญ ตามป.วิ.อาญา มาตรา150(1) กับ (3 ) ดีเสไอบอกว่า บางชุดตีความว่าไม่เข้า(1) ก็ไม่ต้องยื่นศาลไต่สวน บางส่วนเข้า(3) ต้องยื่นศาลไต่สวน ก็ม่ขอ้สังเกตึว่าในกระบวนการยุติธรรมพนักงานทำงานร่วมกัน ความเห็นต่างแต่กัน เข้าใจได้ แต่แนวปฏิบัติต่างกันเข้าใจไม่ได้ เหตุการณ์ชุมนุมเดียกัน แม้จะเกิดเหตุการณ์ต่างกรรม ต่างวาระ เวลาแต่ถือว่าเป็นสถานการณ์ต่อเนื่องเกี่ยว คนตาย 99 ศพ ส่งศาลไต่สวน 20 ศพ ที่เหลือยังไม่ยื่นไต่สวน อันนี้ผมเข้าใจไม่ได้ ผมว่าเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องโจ๊ก ไม่ใช่ตลก แต่มันเละ เป็นโจ๊ก อาจจะต้องไปตามเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ”นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่วอีกว่า ในสำนวนของผู้บาดเจ็บ ได้รับคำชี้แจงว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนหาพยานหลักฐาน จึงถามอีกว่า แล้วมีเลขคดีหรืออะไรที่สามารถชี้แจงทำความเข้าใจได้หรือไม่ว่ากำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ดีเอสไอก็ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน นอกจากนี้ก็ถามเรื่องกรอบเวลาการทำงาน ดีเอสไอไม่ได้ระบุว่า บอกแต่เพียงว่า ดีเอสไอมีระเบียบกรอบทำงานประมาณ 1 ปี ในการทำแต่ละคดี ซึ่งตนเห็นว่า มันค่อนข้างช้า เพราะคดีดังกล่าวถ้านับเวลา จากที่ระบสำนวนจากป.ป.ช.เดือน ก.ค.61 คดีจะแล้วเสร็จคือกลางปี 62 มันนานเกินไปคดีนี้ใช้เวลาไแล้วกว่า 8 ปี หลังศาลไต่สวนคดี 6 ศพวัดปทุมฯ หลังจากนี้ตนจะให้ผู้บาดเจ็บ มาแจ้งความกับดีเอสไอเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามอยากให้ดีเอสไอแถลงความคืบหน้าเป็นระยะ
นางธิดา กล่าวว่า ตนอยากให้ดีเอสไอใช้สำนวนไต่สวนการเสียชีวิต 6 ศพ วัดปทุมฯ เป็นจุดเริ่มตนของคดี เนื่องจากในสำนวนดังกล่าวมีการะบุชัดถึงการเสียชีวิตอย่างไร อีกทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติการวัดเกิดเหตุบนรางรถไฟฟ้า ก็ไม่มีมาก สามารถหาตัวหรือเรียกมาสอบได้ไม่ได้อยาก ทั้งนี้ตนและแกนนำนปช.ไม่ได้จะเป็นคู่ขัดแย้งกับดีเอสไอ แต่ต้องมาสอบถามความคืบหน้าให้พี่น้องประชาชน นอกจากนี้พวกเรายังเคยเป็ฯผู้ถูกกล่าวหา ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์ดังกล่าว ไปแล้วจึงต้องการเรียกร้องความยุติธรรมบ้าง
ด้านพ.ต.ต.วรนันท์ กล่าวว่า ดีเอสไอ อธิบายขั้นตอน ที่ดีเอสไอทำงาน และพร้อมจะแถลงความคืบหน้าเป็นระยะ เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ในส่วนข้อเสนอแนะในการหารือ จะมีการเสนอให้อธิบดีดีเอสไอมีข้อสั่งการในลำดับ ต่อไปขอยันยันว่า ดีเอสไอไม่ได้โยนไปโยนมาเป็นขั้นตอนของกฎหมาย