‘ดำรงค์’ ชูนโยบายปลูกป่า ลดสารเคมีแหล่งต้นน้ำ เขตไหนป่าถูกบุกรุกเจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 61 นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 22/2561 เรื่อง การให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ซึ่งถือเป็นการปลดล็อกทางการเมือง จากนี้พรรครักษ์ผืนป่าฯ จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบและเข้าถึงนโยบายของพรรค ที่แม้จะเปลี่ยนชื่อพรรคแต่ก็ยังมีแนวทางการอนุรักษ์เข้มข้นเหมือนเดิม วันนี้การบุกรุกทำลายป่า การล่าสัตว์และการใช้สารเคมียังเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะการใช้สารเคมีทางการเกษตรบนพื้นที่สูง ป่าต้นน้ำลำธารในพื้นที่ภาคเหนือจำนวนมาก ซึ่งชะล้างลงสู่แม่น้ำสายหลัก ปิง วัง ยม น่าน ก่อนไหลลงสู่ลุ่มเจ้าพระยา โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าต้นน้ำเหล่านี้มีการปนเปื้อนสารเคมีมากน้อยแค่ไหน และส่งพิษภัยต่อร่างกายมนุษย์ทำให้เกิดโรคภัยต่างๆ อย่างมาก พรรคจะพยายามหาวิธีลดการใช้สารเคมีบนพื้นที่สูงที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารมากที่สุดเท่าที่จะมากได้

นายดำรงค์ กล่าวว่า ทั้งนี้พรรคมีนโยบายด้านป่าไม้ เพื่อเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศ โดยจะทำให้ประชาชนมีรายได้จากการปลูกป่าทดแทนพืชผลทางการเกษตรที่ใช้สารเคมี โดยต้องปลูกต้นไม้ที่อยู่ในบัญชีไม้หวงห้าม ประเภท ก และ ข จำนวน 171 ชนิด เช่น พะยูง มะค่า ประดู่ เป็นต้น เมื่อครบ 3 ปี จะได้ค่าชดเชยจากการปลูกต้นไม้เพื่อต่อสู้สภาวะโลกร้อน ซึ่งจะมีผลกำไรมากกว่าการปลูกพืชผลการเกษตร โดยจะดำเนินการตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ นโยบายด้านสัตว์ป่า จะมีการแก้กฎหมายสัตว์ป่าให้มีโทษหนักเบาตามความสำคัญของสัตว์ป่า เช่น ช้างป่ากับนกทั่วไปจะต้องมีโทษแตกต่างกัน ส่วนสัตว์ป่าบางชนิดที่เพาะเลี้ยงได้แล้ว เช่น นกกรงหัวจุก หรือนกปรอดหัวโขน จะต้องถูกยกเลิกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ขณะที่ของป่า เช่น จันทร์ผา ศึ่งสามารถเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อได้แล้ว ก็ต้องถูกยกเลิกจากบัญชีของป่าหวงห้ามเป็นต้น ส่วนด้านการป้องกันรักษาป่า หัวหน้าหน่วยดูแลป่าไม้ทั่วประเทศ ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯจัดให้มีแผนที่ปฏิยัติงานของแต่ละคน กากมีพื้นที่ถูกบุรุกทำลายแบ้วไม่ดำเนินการใดๆ จะต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไป
นายดำรงค์ กล่าวว่า ทั้งนี้พรรคมีผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต โดยในระหว่างวันที่ 12-14 ธ.ค.นี้ ตนได้ลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อร่วมประชุมผู้สมัครและสมาชิกพรรคในกลุ่ม 5 จ.ภาคใต้ สงขลา สตูล ปัตตานี นราธิวาส ยะลา จากนั้นจะเดินทางไปประชุมผู้สมัครและสมาชิกพรรคในกลุ่มภาคใต้ตอนบน ที่ จ.ศรีธรรมราชต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image