การเมืองแบบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อาจเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายจากสายตาของ “คนรุ่นใหม่”
ไม่ว่าจะเรียกว่า “นิวบลั้ด” ไม่ว่าจะเรียก “นิวเด็ม”
แต่ก็ต้องยอมรับว่า การได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการรณรงค์การเลือกตั้ง(ทีมปราศรัยหาเสียง)มิได้เป็นเรื่องในแบบ “โชคช่วย”
ตรงกันข้าม มีความจำเป็นไม่ยิ่งหย่อนกว่าที่พรรคไทยรักษาชาติมอบหมายตำแหน่งนี้ให้ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ
ขณะที่แม้จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็เดินสายในฐานะเป็น “กองเชียร์” อย่างขันแข็งให้กับพรรคเพื่อชาติ
นี่เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่เป็นอย่างดีในแวดวงการเมือง
ถามว่าที่ตั้งข้อสังเกตว่ามี 2 หน่วยงานสำคัญกำลังตระเตรียมโกง การเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองหนึ่ง มีน้ำหนักและความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
เหตุใดจึงไม่ยอมระบุว่า 2 หน่วยงานนั้นคือหน่วยงานอะไร
เพียงแต่สำทับว่า “ขอให้ระวังไว้เพราะคนในคณะทำงานของผมเคยเป็นนายของคน 2 หน่วยงานนี้”
คำว่า”นาย”ก็แจ่มชัดแล้วว่าจะเป็น”สี”ใด
เช่นเดียวกับการระบุเหมือนลอยมาตามสายลมอ่อนว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จองกระทรวงพาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จองกระทรวงคมนาคม นายสุชาติ ตันเจริญ จองกระทรวงพลังงาน
ถามว่าเป็นเรื่องของ “การข่าว” เป็นตาสับปะรดของนายตำรวจกองปราบเก่า หรือว่าเป็นการคาดคะเนด้วยความจัดเจน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อาจไม่ตอบ แต่ที่แน่เป็นอย่างยิ่งภายในพรรคพลังประชารัฐจำเป็นต้องล้างหูรับฟังเป็นแถว
เพราะนี่คือกระบวนการ”ตีปลา หน้าไซ”
เมื่อพรรคเพื่อไทยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พรรคไทยรักษาชาติ มี นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ขณะที่พรรคเพื่อชาติมี นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นกองเชียร์
สัญญาณอัน นายทักษิณ ชินวัตร กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่งมาจากต่างประเทศ ย่อมมากด้วยพลานุภาพ
การเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์จึงมากด้วยความเข้ม