เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงกรณีถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้มูลตรวจสอบโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งอุโมงค์ไฟแอลอีดี กทม. วงเงิน 39.5 ล้านบาทว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด และเตรียมฟ้องกลับ สตง.ว่า เท่าที่ฟัง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ไม่ได้ชี้แจงเรื่องที่ส่อไปทางการฮั้วประมูลตามที่ สตง.ชี้ ต่อไปเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าจะรับเรื่องหรือไม่ ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ติดตามโครงการต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน เช่น โครงการจัดซื้อรถดูดเลน การต่อสัญญารถไฟฟ้าบีทีเอส การติดกล้องซีซีทีวี เป็นต้น จนถึงเรื่องจัดแสดงอุโมงค์ไฟ 39.5 ล้านบาท. ทางพรรคได้พยายามขอให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ เข้ามาอธิบาย แต่ไม่ได้รับการตอบรับ จนนำไปสู่การแถลงตัดความสัมพันธ์ระหว่างพรรค กับทีมบริหารกทม. ดังนั้นทีมบริหารกทม.ต้องอธิบายเรื่องนี้กับประชาชนเอง ไม่ควรพาดพิงอะไรกับพรรคอีก
เมื่อถามว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ นายบุญยอดกล่าวว่า กรณีของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. ที่ลาออกเพราะถูกปปช.ชี้มูลคดีรถดับเพลิง เมื่อถึงจุดนั้นแล้ว ทางผู้บริหารกทม.ชุดปัจจุบันควรพิจารณาตัวเองเช่นเดียวกัน พูดง่ายๆคือหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรอพิสูจน์ตัวเองก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรจะทำไม่ว่าจะอยู่พรรคไหน ส่วนข้อเสนอของ นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 นั้น เป็นความเห็นส่วนตัวของนายวิลาศ พรรคไม่ได้มีความเห็นอะไร ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า ควรปล่อยเป็นไปตามกระบวนการตามปกติได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพราะม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ก็ต้องมีโอกาสอธิบายว่ามีการดำเนินงานและใช้งบประมาณอย่างไร หรือมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย ส่วนพรรคไม่มีอำนาจหน้าที่อะไรแล้ว เพราะได้แสดงออกอย่างชัดเจนไปแล้ว
