“ทษช.” จี้ “บิ๊กตู่” หยุดใช้อำนาจรัฐชิงความได้เปรียบ ประกาศตัวเป็นรบ.รักษาการ

“ทษช.” จี้ “บิ๊กตู่” ประกาศไม่ใช้ม.44 แทรกแซงการเลือกตั้ง พร้อมบี้กกต.แก้ปัญหาปมบัตรเลือกตั้งให้ประชาชน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่เมืองทองธานี ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคทษช. ให้สัมภาาณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ประกาศว่าเป็นนักการเมืองเต็มตัวว่า ความจริงประชาชนทั้งประเทศก็รู้อยู่แล้วว่า ดูเสมือนจะต้องเข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะมีแผนการสืบทอดอำนาจ ทั้งนี้ท่านในฐานะนายกฯ หัวหน้าคสช. และเป็นกรรมการย่อมมีโอกาสที่จะแย่งชิงความได้เปรียบให้แก่พรรคการเมืองที่ท่านสังกัด หรือพรรคการเมืองที่จะเสนอชื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการเปลี่ยนจากกรมการมาเป็นผู้เล่นจะเหมาะสมหรือไม่นั้นตนขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค ทษช.กล่าวว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศตัวเป็นนักการเมืองชัดเจนแล้ว ตนคิดว่าสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ควรทำมีอยู่สองเรื่อง คือ 1.ควรจะประกาศตัวเป็นรัฐบาลรักษาการโดยเร็ว แล้วให้ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของกกต. ไม่อนุมัติงบประมาณโครงการใหญ่ๆ หรืออนุมัติงบที่ผูกพัน รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการก็ต้องเสนอความเห็นชอบจากกกต.และ 2.พล.อ.ประยุทธ์ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะไม่ใช้มาตรา 44 แทรกแซงการทำงานของกกต. และการจัดการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ควรจะแสดงสำนึกที่จะไม่เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น ส่วนเรื่องปลดล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้แล้วนั้น ทษช. ก็มั่นใจว่าเราจะมีบุคลากรที่หลากหลาย มีคนรุ่นใหม่ที่จะนำนโยบายไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้นเราจึงมั่นใจว่าเราจะมีนโยบายที่ดีไปแก้ปัญหาที่ดีให้กับประชาชน แต่การจะทำนโยบายที่ดีนั้นจะต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ไม่สามารถนั่งทำนโยบายกันในห้องแล้วจะดีได้ และเราจะใช้เวลาช่วงปลดล็อกนี้ลงไปรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชน และเราเชื่อว่าเวลาที่มีอยู่นั้นเพียงพอที่จะทำให้คนรู้จัก เพราะเชื่อมั่น และเลือกพรรค ทษช.เข้าไปทำงาน

เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ ควรสละตำแหน่งหัวหน้า คสช. ด้วยหรือไม่ ในช่วงเลือกตั้ง นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การให้พล.อ.ประยุทธ์สละตำแหน่งหัวหน้าคสช. ยากกว่าใช้หัวเดินต่างเท้าเสียอีก ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ประกาศจะไม่ใช้มาตรา 44 แทรกแซงการเลือกตั้ง ก็ถือว่าเป็นความพอใจระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ดีจะต้องงดเว้นการใช้มาตรา 44 ที่จะไปทำให้เกิดปัญหาใหม่ๆ ขึ้น

Advertisement

เมื่อถามว่า นายจตุรนต์ และร.ท.ปรีชาพล จะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตใดหรือไม่ ร.ท. ปรีชาพล กล่าวว่า เราได้มีการพูดคุยกันว่า ในฐานะที่เราจะต้องนำทีมลงหาเสียงพบปะพี่น้องประชาชน การลงสมัครในระบบเขตเลือกตั้งเวลาอาจจะไม่เพียงพอ แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่คณะกรรมการสรรหา และสำหรับผู้ที่เราชวนมาร่วมงานในวันนี้คือผู้ที่แสดงความจำนงค์จะสมัคร ส.ส.ของพรรค แต่กระบวนการสรรหาต่อจากนี้จะต้องมีการส่งรายชื่อลงไปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ด้วย จึงจะสรุปได้ว่าใครจะเป็นผู้สมัคร

เมื่อถามถึงกรณีให้ผู้สมัครใช้เบอร์ไม่เหมือน ทำให้ไม่สามารถพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่ใส่โลโก้และชื่อพรรคได้ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะต้นเหตุอยู่ที่คนออกแบบบัตรมากกว่า ที่ออกมาให้มีปัญหา ดังนั้นเมื่อออกแบบมาให้มีปัญหาก็จะต้องแก้ปัญหาให้กับประชาชน ไมใช่โยนปัญหาให้กับประชาชนแก้เอง

เมื่อถามว่า ได้มีการหารือกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยพรรคอื่น เรื่องการจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ จาตุรนต์ กล่าวว่า ยังไม่มีการคุย ส่วนที่มีการพูดคุยจะเป็นพูดแบบใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเพราะเราเห็นปัญหาร่วมกันก็คุยกันได้ หรือเวลาเจอกันก็คุยกัน แต่การจัดตั้งรัฐบาลร่มกันนั้นยังเร็วเกินไป ที่จะสามารถพูดได้ ทั้งนี้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยถือเป็นพันธมิตรกันโดยธรรมชาติ สามารถคุยกันได้ แต่ต้องดูผลการเลือกตั้งที่จะออกมาด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image