แกนนำทษช. ประสานเสียง ขอสร้างความสุข-สร้างรอยยิ้ม-คืนศักดิ์ศรีให้คนไทย

“ปรีชาพล” ลั่น ทษช. พร้อมสร้างความสุข-สร้างรอยยิ้ม-คืนศักดิ์ศรีให้คนไทย ด้าน “จาตุรนต์” อัด ผู้นำขาดความรู้-ไร้วุฒิภาวะ ชวนปชช.หยุดการสืบทอดอำนาจ-สร้างรบ.ที่เป็นปชต.มาแก้ปัญหาปท. ลั่น “ประเทศนี้ยังมีความหวัง”

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่ห้องพอร์ทอล บอลรูม เมืองทองธานี พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จัดประชุมสัมมนาว่าที่ผู้สมัครจากทั่วประเทศ “ทษช.สู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง” โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค อาทิ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค นายพิชิต ชื่นบาน ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค นางชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค เป็นต้น เดินทางมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง

ร.ท.ปรีชาพล กล่าวในหัวข้อ “โลกเปลี่ยนไปแล้ว แต่เรายังก้าวไม่ทัน” ว่า วันนี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก แต่ประเทศไทยกลับถูกทำให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ เพราะระบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย กรอบของกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ ประชาชนขาดสิทธิเสรีภาพ การมีส่วนร่วม ขาดโอกาสในการทำมาหากินและการพัฒนาตัวเอง สะท้อนจากข้อมูลของ World Economic Forum ปี 2017 ว่าสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจไทย คือ 1.ความไม่มั่นคงของรัฐบาลและการเกิดรัฐประหาร 2.ความไม่มีประสิทธิภาพของระบบราชการ 3.ความไม่ต่อเนื่องในนโยบาย 4.การไม่มีความสามารถในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ 5.การทุจริตคอร์รัปชั่น สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำให้เห็นว่าประเทศไทยถูกกักขังไว้ด้วยแนวคิดเดิมๆ ทำให้ก้าวไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ส่วนวิถีชีวิตของคนชนบทส่วนใหญ่อยู่กันแบบตามมีตามเกิด เกษตรกรชาวไร่ชาวนาชาวสวน ทุกข์ร้อนอย่างแสนสาหัสจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ หนี้สินพะรุงพะรัง รัฐไม่มีระบบที่จะช่วยเหลือเกษตรกรอย่างยั่งยืน เกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง เงินที่จะใช้ในการดำรงชีวิตไม่เพียงพอ แม้กระทั่งจะให้ลูกหลานไปโรงเรียนยังไม่มี เพราะรูปแบบการทำเกษตรแบบเดิมๆ ที่ต้องพึ่งฟ้า พึ่งฝน พึ่งเทวดา ไม่ตอบโจทย์โลกปัจจุบัน ขาดความเข้าใจเรื่องตลาดโลกและเทคโนโลยีสมัยใหม่

นอกจากนี้ยังมีปัญหาของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน เพราะใช้สมองกล (AI) และหุ่นยนต์ในการทำงาน นี่คือตัวอย่างของเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนที่ แต่ทุกอย่างมีทางแก้ เพราะแรงงานเราขาดการพัฒนา รัฐจึงต้องเตรียมความพร้อม ส่งเสริมความรู้ ทักษะ ความสามารถของแรงงานให้สูงขึ้น ทษช.จะไม่ยอมให้คนไทยและประเทศไทยตกยุคและ แม้เทคโนโลยีจะเป็นเรื่องยาก แต่พรรค ทษช.จะทำให้เป็นเรื่องง่ายแสนง่าย ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป เราจะทำเทคโนโลยีให้เป็นเรื่องง่ายเพื่อช่วยประชาชนในการทำมาหากินทำให้ สะดวกสบายยิ่งขึ้น ส่งเสริม สร้างโอกาสให้กับประชาชน เปลี่ยนการเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นการเกษตรแบบทันสมัยเพื่อลดต้นทุนการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่ม และเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เราจะช่วยธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางให้เข้มแข็งขึ้น

Advertisement

“พรรค ทษช.ได้หลอมรวมเอาความคิดของคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ และคนรุ่นต่างๆ ที่มีประสบการณ์ และทำสำเร็จมาแล้วในอดีต เราเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก เราเข้าใจประชาชน และเรากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้ก้าวทันโลก ก้าวทันเทคโนโลยีเพื่อปลดปล่อยศักยภาพของคนไทย ที่ถูกทำให้หยุดนิ่งมานานเราจะพัฒนาขีดความสามารถของประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิต รวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ของพี่น้องประชาชน เราจะสร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม และคืนศักดิ์ศรีให้กับคนไทย เราพร้อมแล้วและจะไม่ยอมเห็นประเทศไทยต้องตกยุค เราพร้อมที่จะเสนอตัวให้ประชาชนเลือกเป็นผู้แทนของท่าน และเป็นรัฐบาลของท่าน 24 กุมภาพันธ์ 62 เราขออาสาเข้าไปทำงานรับใช้ประชาชน” ร.ท.ปรีชาพล กล่าว

จากนั้นนายจาตุรนต์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการพูดหลังการปลดล็อกครั้งแรก ที่ผ่านมาแถลงข่าว 2 ครั้งโดนไป 2 คดี ทั้งนี้ เมื่อปลดล็อกแล้วเราจะไปพบปะประชาชน รับฟังปัญหา และพูดกับประชาชนในเรื่องที่ตลอด 5 ปีมานี้พูดไม่ได้ วันนี้ตนจะพูดเรื่องว่ารัฐบาลเผด็จการทำประเทศเสียหายอย่างไร แล้วรัฐบาลประชาธิปไตยจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นได้อย่างไร วันนี้พรรคทษช.เป็นพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเต็มตัวแน่นอน มีภารกิจสำคัญคือการหยุดการสืบทอดอำนาจ พรรค ทษช.จะเป็นตัวชี้ขาดให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างยิ่ง ตนก็ยืนยันว่าเป็นอย่างนั้น เราจะร่วมกับประชาชนทั้งประเทศ แก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ให้เป็นประชาธิปไตย แม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเขียนป้องกันตัวเองไว้ให้แก้ยาก แต่เราจะเป็นพรรคแรกที่กระโจนลงไปร่วมกับประชาชนแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต่อมาเรื่องสำคัญคือ วันนี้ประเทศไทยก้าวไม่ทันโลก เราย่ำอยู่กับที่ หรือเดินถอยหลัง เราจมอยู่กับการยื้อกันไปมาระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ตั้งแต่รัฐประหารปี 49 และปี 57 แล้วยาวมาถึงวันนี้ ประเทศไทยจึงจมอยู่ในระบบการปกครองที่รวบอำนาจ ไม่ฟังเสียงประชาชน ประชาชนตรวจสอบไม่ได้ และยังวางแผนสืบทอดอำนาจให้ปกครองกันอย่างนี้ไปอีก 20 ปีด้วย ถามว่าแล้วเราจะอยู่อย่างไร ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็น 1 ใน 2 ประเทศในโลกที่ปกครองโดยรัฐบาลทหาร ปกครองโดยผู้นำที่ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ในการปกครองประเทศ และเป็นผู้นำที่ไร้วุฒิภาวะที่สุดอย่างหาไม่ได้เลย ประชาชนยังตรวจสอบการทำงานไม่ได้ด้วย

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า 4 ปีมานี้เศรษฐกิจประเทศไทยเติบโตน้อยที่สุด ช้าที่สุดใน 10 ประเทศอาเซียน เนื่องจากการบริหารประเทศที่ผิดพลาดของคสช.กับพวก พูดเรื่องการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง มาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งแล้ว หลังจากนั้นพูดถึงการปฏิรูปประเทศมาตลอด 4-5 ปี แต่ไม่ปรากฏว่ามีการปฏิรูปประเทศในเรื่องอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันแม้แต่เรื่องเดียว แต่ว่าเรื่องขีดความสามารถของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ประเทศไทยจะอยู่บนโลกนี้ เวทีโลกนี้อย่างไร ความสามารถในการแข่งขันของประเทศย่ำอยู่กับที่ ไม่ได้พัฒนา ไม่ได้ทำให้ดีขึ้น โครงการขนาดใหญ่ล่าช้า ท่านทั้งหลายทราบว่ารัฐบาลที่แล้วมีโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงและจะพัฒนาระบบคมนาคมทั่วประเทศ เราได้ยินตัวเลข 2 ล้านล้านบาท (สมัยรัฐบาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) โครงการนั้นต้องหยุดชะงักไปล้มไป ด้วยเหตุผลง่ายๆว่าประเทศนี้จะต้องทำถนนลูกรังทั่วประเทศให้เป็นถนนลาดยางเสียก่อน ต่อมาเราได้ยินโครงการรถไฟความเร็วสูง ตัวเลข 3 ล้านล้านบาท ผ่านไปแล้วเกือบ 5 ปี ปรากฏว่า 3 กิโลเมตรยังสร้างไม่เสร็จเลย เรื่องนี้ทำให้ไม่มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวเนื่องจากระบบความปลอดภัยไม่ดี แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่พร้อม และที่สำคัญก็คือ ขณะที่ยอดของนักท่องเที่ยวกำลังสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ แต่เพราะการขาดวุฒิภาวะของผู้นำ จากการที่ผู้นำมีความคิดแบบอำนาจนิยม ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน การพูดเพียงไม่กี่คำของรองนายกฯ ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวตกลงอย่างมาก และยังฟื้นกลับคืนมาไม่ได้ จนถึงทุกวันนี้ เราพูดถึงเศรษฐกิจที่โตขึ้น เราได้ยินตัวเลขว่าเศรษฐกิจโตขึ้น แต่คนทำมาค้าขาย คนทำมาหากิน ประชาชนไปทั่วไป บอกว่า ยากจนลง ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินในกระเป๋า ปัญหาที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย จึงอยู่ในสภาพที่คนเรียกกันจนติดปากแล้วว่ารวยกระจุก จนกระจาย และประเทศไทยเป็นรัฐราชการ ประชาชนจะทำอะไรต้องมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะ แบบนี้จึงทำให้การทุจริตคอร์รัปชั่นมีมาก ทั้งนี้ เรากำลังจะเป็นสังคมสูงวัยก่อนรวย ซึ่งสังคมไทยยังไม่ได้มีการเตรียมตัวอย่างจริงจัง ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของคนที่ไม่ความรู้ รวบอำนาจ และไม่ฟังเสียงของประชาชน รัฐบาลเก็บภาษีจากธุรกิจขยาดกลาง และขนาดเล็กแต่กลับมุ่งไปที่การเอื้อทุนขนาดใหญ่ ด้วยข้ออ้างว่า การเอื้อทุนขนาดใหญ่จะมีผลกระทบถึงคนระดับล่าง เมื่อเร็วๆ นี้มีการออกกฎหมายเพื่อจะเก็บภาษี E-Commerce ของธุรกิจขนาดเล็ก ทั้งๆ ที่ปล่อยให้เขาเติบโตมาตามยถากรรมมานาน แต่ก่อนหน้านั้นไม่นาน รัฐบาลนี้ได้ตกลงที่จะยกเว้นภาษีให้กับ E-Commerce ขนาดใหญ่โดยไม่มีเงื่อนไข รัฐบาลดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด เช่น การเพิ่มงบกระทรวงกลาโหมทำให้เรามีเรือดำน้ำที่ไม่ได้ใช้ ในขณะที่โรงพยาบาลคนเข้าไปรอคิวแต่เช้า จนเย็นก็ยังไม่ได้เข้าพบหมอ หรือช้อปช่วยชาติ ร้านค้าพลังปประชารัฐ แจกซิมคนจน และล่าสุดแต๊ะเอียล่วงหน้า เป็นการแจกเงินเจ้าสัวผ่านมือคนจน แต่ ทษช.เรามีทางแก้

นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนจะไม่พูดถึงเรื่องนโยบายเพราะกลัวคนก็อบปี้ แต่จะพูดแนวความคิดที่สำคัญคือ 1.เราต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศนี้ ต่อระบบนี้ เพื่อห้เกิดการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ หากเลือกตั้งแล้วได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกฯ ต่อ ก็สร้างความเชื่อมั่นไม่ได้ เพราะเขาคิดว่าได้รัฐบาลเผด็จการแบบเดิมกลับมา ดังนั้นจึงต้องเอารัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปเป็นรัฐบาลจึงจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ 2.จะส่งเสริมให้คนที่จะประกอบธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็กเข้าถึงแหล่งทุนและแหล่งความรู้ 3.การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆให้เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมเศรษญกิจแบบดิจิทัล การส่งเสริมนวัตกรรม การส่งเสริมเศรษฐกิจที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ภายใต้สภาวะประชาธิปไตย โดยรัฐบาลประชาธิปไตย ประเทศไทยจะต้องไม่ตกขบวนจากการพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่นี้ ประะเทศไทยจะต้องได้ประโยชน์จากการพัฒนานี้ มีผู้คนจำนวนมากพูดถึงเทคโนโลยี แต่ปัญหาที่เราจะต้องตอบ สิ่งที่เราจะต้องทำให้เกิดขึ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่นี้ ก็คือ เราจะดูแลโครงสร้างพื้นฐาน เราะจะดูแลกฎระเบียบต่างๆ ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจใหม่นี้ เอื้ออำนวยต่อการสร้างเศรษฐกิจแบบใหม่ เราจะพัฒนาเตรียมความพร้อมของบุคลากร เพื่อให้มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมในระบบเศรษฐกิจแบบใหม่

“จากนี้ผมไปพบกับพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เดือดร้อนเหลือเกิน ทำมาค้าขายไม่ได้ ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินในกระเป๋าแล้ว จะอดตายกันอยู่แล้ว คำถามที่เราจะต้องถามถึงสังคมไทย ถึงประชาชนทั่งประเทศ แล้วเราจะทนต่อไปอีกหรือไม่ เมื่อรัฐบาลที่บริหารประเทศ และได้ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ทำให้ประชาชนเสียหาย ติดต่อกันมา 5 ปี ต้องการจะสืบทอดอำนาจต่อไป ประชาชนอยากยอมหรือไม่ เราต้องหยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. ถ้าจะแก้ปัญหาประเทศนี้ ต้องมีรัฐบาลที่มาจากประชาชน ที่ต้องสนองความต้องการของประชาชน และแก้ปัญหาของประชาชน ต้องมีรัฐบาลประชาธิปไตยที่แก้ปัญหาปากท้องของคนส่วนใหญ่ เพื่อทำให้คนทุกคน สามารถจะทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนเอง และมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ต้องให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าทันสมัยในยุคเทคโนโลยีก้าวกระโดด พรรคทษช. เรามีความพร้อม เราได้รวบรวมเอาผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ เข้ามาอยู่ในพรรคนี้ เรามีคนรุ่นใหม่ คนมีวิสัยทัศน์ ผู้คนที่หลากหลาย ที่อาสาเข้ามาแก้ปัญหาประเทศร่วมกัน เรามั่นใจว่าจากความรู้ประสบการณ์ ความมีวิสัยทัศน์ ความตั้งใจที่จะแก้ปัญหา เราจะสามารถทำนโยบายที่แก้ปัญหาประเทศได้ และเราจะใช้ประสบการณ์ของบุคลากรในพรรคทำให้นโยบายปรากฏผลเป็นจริงอย่างที่เคยทำมาแล้ว ปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดมีทางออก ถ้าเราร่วมมือกับประชาชน หยุดการสืบทอดอำนาจ สร้างรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยขึ้นมาแก้ปัญหาประเทศ ประเทศนี้ยังมีความหวัง” นายจาตุรนต์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image