เรียงคนมาเป็นข่าว/ภาพข่าวสังคม วันที่ 14 ธันวาคม 2561

จัดงานเลี้ยง - สภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ ได้จัดงานเลี้ยงส่ง หลัน ซู่หง อุปทูตฝ่ายวัฒนธรรมจีนประจำประเทศไทย ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมจีน ณ กรุงเทพฯ ฉิน ยู่วเซิน ที่ปรึกษาอาวุโส ศูนย์วัฒนธรรมจีน ณ กรุงเทพฯ และต้อนรับ ฉาง หยู่เหมิง  อุปทูตฝ่ายวัฒนธรรมจีนประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมี พินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ พล.อ. วิชิต ยาทิพย์ และสมพล รวยสว่างบุญ รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ ร่วมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงส่งและต้อนรับ

⦁…จนป่านนี้ ในบางแวดวงสนทนายังเชื่อว่า “เลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป” เหตุผลที่ได้ฟังคือ “ดูจะตั้งอกตั้งใจทำให้เกิดความปั่นป่วนทางการเมืองกันเหลือเกิน” โดยขยายความว่า “สร้างเงื่อนไขให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม” มุ่ง “ทำลายพรรคการเมืองไม่หยุดหย่อน” เหมือนวางกับดักให้ “นักการเมืองออกมาต่อต้าน” แล้วอ้าง “ความไม่สงบ” เพื่อ “ครองอำนาจต่อ” โดยไม่ต้อง “เสี่ยงกับผลเลือกตั้ง” ได้แต่ฟังความกังวลของวงสนทนาแบบ “ฟังหูไว้หู” คือ “ไม่ปลงใจเชื่อหรือไม่เชื่อ” แค่รอดูที่จะเกิดขึ้นจริง

⦁…อีกมุมมองหนึ่งเชื่อว่า “เลือกตั้งแน่” เพราะ “ผู้นำจากรัฐประหาร” ทำให้ประเทศไม่สง่างามพอสำหรับสายตาชาวโลก เพียงแต่เป็นเลือกตั้งที่ทุกอย่างถูกเซตไว้หมดแล้ว “ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงมากมายนัก” รัฐบาลจะเป็นชุดเดียวกับยุคหลัง “รัฐบาลพลังประชาชน” ที่ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ถูกแทนด้วย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยยุทธการ “ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร” อันมี “ประชาธิปัตย์+ทีมงานเนวิน ชิดชอบ” ภายใต้อำนาจของ “คณะนายทหาร” รอบนี้แกนนำจะเป็น “ทีมเดียวกับช่วงนั้น” เพียงแต่ “คณะนายทหาร” ที่เปลี่ยนมาเป็น “คสช.” จะออกมาเล่นหน้าฉาก ในนาม “พลังประชารัฐ”

⦁…ที่บอกว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศแล้วไม่เอาด้วยกับ “พลังประชารัฐ” นั้น ผู้สันทัดกรณีทุบโต๊ะเปรี้ยงว่า “นั่นเป็นเรื่องของมาร์ค” ที่ต้องตัดสินใจเอง ว่าจะ “จบชีวิตการเมืองก่อนวัยอันควรหรือไม่” เพราะหากขัดขืนมากมาย ที่สุดแล้ว “ลาออกจากหัวหน้าพรรค” จะถูกใช้เป็น “เกมบังคับ” สำหรับคนที่คิดว่า “บังคับยาก” มีคำนำให้ดู และหาคำตอบว่า “หลายคนจากเพื่อไทย” ที่ต้องย้ายมา “พลังประชารัฐ” อย่างไม่น่าเชื่อนั้น “ทำไมเป็นไปเช่นนี้ได้”

⦁…มีผู้ชี้ให้เห็นด้วยว่า ไม่เพียง “พรรคการเมือง” เท่านั้นที่จะถูกลดบทบาทชนิดแทบไม่มีความหมายใน “สังคมอำนาจ” แม้แต่ที่ได้ชื่อว่า “เจ้าของอำนาจที่แท้จริง” อย่าง “ประชาชนส่วนใหญ่” จะถูกทำให้เห็นว่า “ข้อกล่าวหาว่าไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตย” คือ “ไม่มีความรู้ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างเหมาะสม” และ “เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว” มากกว่า “หลักการเพื่อส่วนรวม” นั้นเป็นความจริง โดยใช้ “การออกแบบวิธีการเลือกตั้ง” ที่ทำให้เข้าใจได้ยากพอๆ กับ “คู่มือขับยานอวกาศ” แล้วสรุปว่า “แค่จะใช้สิทธิลงคะแนนยังเข้าใจไม่ได้” จะหวังอะไรกับการแยกแยะ “คนดี คนชั่ว” และทำให้เห็นๆ ว่า “ผลเลือกตั้ง” ออกมาตาม “ปริมาณเงินลงทุน”

Advertisement

⦁…ที่น่าสลดหดหู่คือ หาก “ฝ่ายตรงกันข้าม” มองว่า “ผลเลือกตั้งไม่เป็นธรรม” จะเป็นการง่ายที่จะถูกชี้ว่า “ดูถูกประชาชน” กลายเป็น “ฝ่ายที่ตำหนิติติง” ประชาชนว่าเลือกตั้งไม่เป็นเสียเอง และหากเป็นอย่างนั้นก็ “เข้าง่าม” ลงเอยใน “กับดัก” ว่า “ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าประชาชนไทยไม่เหมาะกับประชาธิปไตยแบบสากล” เกิดความสับสนทางตรรกะ ชนิด “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก”

⦁…ส่วนใครที่เชื่อว่าที่สุดแล้ว “สภาวะเศรษฐกิจ” จะส่งผลให้เห็นเองว่า แม้ “มีอำนาจก็อยู่ได้ยาก” ผู้สันทัดกรณีมองมุมนี้ไปในทาง “ไม่ใช่เรื่องยากเย็นที่จะแก้เกม” ด้วย “ตัวเลขเศรษฐกิจ” เป็นเรื่องที่บิดได้ แค่ “ไม่ยอมรับตัวเลขที่ถูกกล่าวหา แล้วยกตัวเลขอีกชุดออกมาโต้” ทุกอย่างก็จบ เหมือนกับข่าวล่าสุดว่า “ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก” ซึ่ง “รัฐบาลไม่ต้องเสนอมาตรการแก้ไขเพิ่มเติมให้วุ่นวาย” แต่บอกว่า “เป็นตัวเลขเก่า” ที่เป็นจริงคือ “ตอนนี้ดีขึ้นแล้วด้วยฝีมือรัฐบาลชุดนี้” เรื่องราวก็จบ “เหลื่อมล้ำ” กลายเป็นแค่ “ต่างมุมมอง”

⦁…ยังมีอีกความคิดหนึ่งที่เอามาใช้เป็นเหตุผล ปลอบใจตัวเองว่า “ปฏิบัติการล้มรัฐบาลประชาธิปไตย” ที่ผ่านมาไม่ใช่ “ความหลงผิด” คือความพยายามที่จะบอกกับตัวเองว่า “ความยุ่งยากของประเทศ” เกิดจาก “ความแตกแยก” ที่สองฝ่ายไม่มีใคร “เหนือกว่าอย่างเด็ดขาด” ดังนั้น หนทางเดียวที่จะทำให้เกิด “เอกภาพ” ได้ จะต้องมี “ฝ่ายหนึ่งชนะแบบเด็ดขาด” เป็นมุมมองที่แค่ “คิดให้ตัวเองเชื่อ” เพราะในความเป็นจริง “ชัยชนะที่ขาดความชอบธรรม” ไม่มีทางสร้าง “การยอมรับอย่างเด็ดขาดในใจประชาชนได้” พฤติกรรมการใช้อำนาจที่จะสะท้อนชัดถึง “ความไม่ชอบธรรม อย่างไร้ความละอาย” กลับจะยิ่งสร้างความรู้สึกไม่ยอมรับ อัน “ตรงกันข้ามกับเอกภาพ” ได้หนักแน่นมากขึ้นในใจของ “เพื่อนร่วมสังคม”

ชโลทร

 

แพทย์ มช.พบมติชน – ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมคณะ ร่วมอวยพรปีใหม่ ทีมงานกอง บก.หนังสือพิมพ์มติชน โดยมี นฤตย์ เสกธีระ บรรณาธิการบริหาร ให้การต้อนรับที่อาคารมติชน

 

ประชุม – นพ.เสรี ตู้จินดา ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกการจัดการปัญหาการโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพในระดับพื้นที่ (ทั่วประเทศ) ณ ห้องแมจิก 3 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น โดยมี นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการ กสทช., พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช. เข้าร่วมการประชุม

 

ลงนาม – นิทัศน์ อรุณทิพย์ไพฑูรย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ตกแต่งครบวงจร พร้อมด้วย ธวัช เบญจาทิกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาฝีมือแรงงานกลุ่มช่างไฟฟ้า และช่างก่อสร้าง ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 10 อาคารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เมื่อเร็วๆ นี้

 

ส่งมอบความสุข – กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด จัดงานเปิดแคมเปญ “ไทม์ ทู เซเลเบรท 2019” แนะนำโดย อาจารย์ช้าง-ทศพร ศรีตุลา อาทิ ชุดสมบูรณ์พูนสุข, ชุดรุ่งโรจน์โชติช่วง, ชุดสำเร็จสมหวัง, ชุดรวยทรัพย์รวยสุข โดยมี พิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ, ภควดี อมรพิทักษ์กูล, ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล, แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา และเขริกา โชติวิจิตร ร่วมงาน เมื่อเร็วๆ นี้

 

แต่งตั้งตัวแทน – สุทัศน์ ทองประเสริฐ ประธาน บจก.อะโป พลัส สเตชั่น และ เอจิ ทาเกะมะซะ ประธาน บจก.ฟูจิ ฟาร์ม่า ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ชั้นนำแห่งประเทศญี่ปุ่น และมีบริษัทในเครือในประเทศไทย คือ บจก.โอลิค ได้ร่วมลงนามสัญญาแต่งตั้งให้ บจก.อะโป พลัส สเตชั่น เป็นตัวแทนทำการตลาดและส่งเสริมการขายเวชภัณฑ์ในประเทศไทย โดยมี ยาซุตะกะ อะเบะ ประธาน บจก.อะโป พลัส สเตชั่น และคณะผู้บริหารร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดี

 

เลี้ยงขอบคุณ – เคป & แคนทารี โฮเทลส์ จัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง : วิวัฒน์ ตั้งจิตกอบบุญ ผู้อำนวยการกลุ่มโรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ พร้อมด้วยพนักงานในเครือ จัดงาน Aki Matsuri 2018 เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าชาวญี่ปุ่นและชาวไทย โดยมี ธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา มาร่วมงาน ณ โรงแรมแคนทารี เบย์, ศรีราชา เมื่อเร็วๆ นี้

 

มอบรางวัล – สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลสุดยอดแบรนด์ชั้นนำของไทยในระดับเอเชียครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่องาน “2018 ASIA CEO SUMMIT & AWARD CEREMONY” ซึ่งจัดโดย บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต ร่วมกับ อินฟลูเอ็นเชี่ยลแบรนด์ สิงคโปร์ มีการมอบรางวัลทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ รางวัลแบรนด์ที่โดดเด่นประจำปี (Outstanding Brands) รางวัลสุดยอดแบรนด์ชั้นนำ (Influential Brands) รางวัลสตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี (Influential Women) และรางวัลรางวัลสุดยอดผู้นำ (Top CEO) ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท ประตูน้ำ เมื่อเร็วๆ นี้

 

ร่วมกิจกรรม – บริษัทผู้นำด้านการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่ได้รับรางวัลในระดับสากล ที่จะประกาศรายชื่อมูลนิธิเพื่อเด็กในไทยรวม ที่ได้รับคัดเลือกให้ส่งนักเตะตัวน้อย กับสโมสรฟุตบอลแชมป์โลกอย่างเรอัลมาดริด โดย 3 มูลนิธิได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมกิจกรรมคลินิกฟุตบอล ได้แก่ มูลนิธิบ้านนกขมิ้น, The Mercy Centre, บ้านเด็ก Father Ray และหมู่บ้านเด็ก Father Ray ซึ่งน้องๆ ผู้ด้อยโอกาสจากทั้ง 3 มูลนิธิ จะได้รับโอกาสสุดพิเศษ ในการเรียนรู้และเตะฟุตบอลกระทบไหล่กับนักเตะแถวหน้าจากเรอัลมาดริด

 

ต้อนรับ – โศภนา เลวิจันทร์ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท แปซิฟิกา ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ โค้ช ประเทศไทย จัดงานเลี้ยงต้อนรับ วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ, ธนภพ ลีรัตนขจร และ กัญญาวีร์ สองเมือง เนื่องในโอกาสร่วมชมแฟชั่นโชว์เปิดคอลเล็กชั่น Coach Pre -Fall 2019 (โค้ช พรี ฟอลล์ 2019) ณ แกลม บาร์ (GLAM BAR) นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเร็วๆ นี้
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image