พรรคเพื่อชาติ แถลงแนวคิดการพัฒนาประชาชนไทยให้เติบโต-แข่งขันได้ในโลกดิจิตอล

วันที่ 15 ธันวาคม นส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ แถลงแนวคิดการพัฒนาประชาชนไทยให้เติบโตและสามารถแข่งขันได้ในโลกดิจิตอลของพรรคว่า โลกเราเปลี่ยนแปลงทุกวัน ตอนนี้เราเข้าสู่ยุคดิจิตอล หลายอาชีพมนุษย์เริ่มตกงาน เพราะหุ่นยนต์ทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ งานในลักษณะที่ใช้แค่ทักษะการรู้จักและรู้จำจะเป็นงานที่หุ่นยนต์มาแทนที่มนุษย์ทั้งหมดในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ดังนั้นการพัฒนาประชาชนของประเทศต้องปรับเปลี่ยนเราต้องหาจุดแข็งว่าสิ่งที่หุ่นยนต์ในโลกดิจิตอลทำไม่ได้คืออะไร แล้วเราต้องเริ่มพัฒนาประชาชนของเราตั้งแต่วันนี้

โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ถ้าการพัฒนาประชาชนของเรายังไม่ปรับเปลี่ยน ตามระบบการปกครองที่ย่ำเท้าอยู่กับที่ ในรอบ 86 ปีตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยเมื่อปี พ.ศ 2475 มีการวนเวียนแย่งชิงอำนาจโดยคณะทหารทำการการรัฐประหาร 13 ครั้ง ก่อกบฏ 11 ครั้ง รวมการแย่งชิงอำนาจ 24 ครั้ง ในรอบ 86 ปี เฉลี่ยทุก 3 ปีกว่าๆ มีกลุ่มคนเห็นแก่ตัวไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย ไม่เห็นแก่อนาคตคนรุ่นใหม่ของชาติจะทำการรัฐประหารเพื่อตนเอง แล้วทำการโฆษณาชวนเชื่อว่าทำเพราะรักชาติ ถ้าระบบการเมืองการปกครองประเทศไทยยังไม่มั่นคง มีกลุ่มคนรุ่นเก่าที่อยากได้อำนาจเห็นแก่ตนเอง ตามการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ทัน ไม่คิดถึงอนาคตของลูกหลานคนรุ่นใหม่ของประเทศว่าจะดำรงชีพอย่างยากลำบากเพียงใด ถ้าไม่มีความสามารถที่เหนือหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ในโลกดิจิตอล

โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวต่อว่า ระบบเผด็จการทุกระบบเน้นอยากให้ประชาชนเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย เชื่อฟังเผด็จการ คิดไม่เป็น จะได้ไม่มีประชาชนคิดต่างให้ปกครองยาก จากสถิติประเทศไทยทุก 3 ปีกว่าๆ มีกลุ่มเผด็จการเข้าแย่งชิงอำนาจ ดังนั้นระบบการศึกษาของเราจึงเน้นแค่รู้จักรู้จำซึ่งมีความสามารถเท่ากันหรือด้อยกว่าหุ่นยนต์ เพื่อที่จะได้ผลิตประชากรของประเทศให้เป็นผู้รับฟัง ยอมรับคำสั่ง คิดต่างไม่เป็น นอกจากระบบการศึกษาผลิตประชากรที่คิดวิเคราะห์ไม่เป็นแล้ว คสช กลุ่มเผด็จการในไทยยังออกกฏหมายมาตราต่างๆ มาไว้ใช้จับประชาชนคิดต่างไปขัง ด้วยความที่ไม่ต้องการให้ประชาชนคิดต่างโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างใกล้ตัวเลยก็คือการเรียกพรรคการเมืองไปประชุมรับฟังคำสั่ง คสช แต่ คสช ไม่ให้พรรคการเมืองใดๆ เสนอความคิดเห็น คือมีพื้นฐานไม่ต้องการให้ประชาชนทั้งประเทศคิดเป็น เมื่อเป็นเช่นนี้ประชากรไทยจะดำรงชีพในโลกดิจิตอลได้อย่างไร เพราะประชากรในโลกดิจิตอลถ้าคิดวิเคราะไม่เป็นก็ไม่สามารถแข่งขันกับหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ได้

การจะดำรงชีพในโลกดิจิตอลได้ต้องรู้จักคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อจะได้ทำงานที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากหุ่นยนต์มีความแม่นยำในงานที่ใช้ทักษะรู้จักและรู้จำกว่ามนุษย์ ถ้าเผด็จการและคนรุ่นเก่ารักชาติจริงและเห็นแก่อนาคตของประเทศ ควรยอมเสียสละถอยออกไปจากแวดวงการเมืองการปกครองไทยจะเป็นคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างมาก และจะได้รับการยกย่องว่ารักชาติรักอนาคตของชาติจริง ไม่ใช่รักชาติตามการโฆษณาชวนเชื่อ โฆษกพรรคเพื่อชาติกล่าว

Advertisement

ถ้าเรายังอนุรักษ์ประชาชนให้คิดไม่เป็นตามวิถีเผด็จการ เพื่อให้เผด็จการครอบงำได้ง่ายๆ จะทำให้เราตามโลกไม่ทัน พรรคเพื่อชาติได้มีพบเมืองดิจิตอลเป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรค รวมทั้งทีมงานพรรคเพื่อชาติคิดโครงการที่จะผลักดันส่งเสริมให้เยาวชนของเราคิดวิเคราะห์สังเคราะห์เป็นไว้แล้ว ซึ่งใช้งบประมาณมาณไม่มาก สามารถทำได้ทันที เพราะการฝึกให้เยาวชนให้คิดเป็นจัดเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแข่งขันกับเวลาในโลกยุคดิจิตอลที่เดินเร็วมาก โฆษกพรรคพรรคเพื่อชาติกล่าวทิ้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image