ภายในพรรคเพื่อไทยรู้หรือไม่ว่าเป้าหมายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสุชาติ ตันเจริญ มิได้อยู่ที่พาณิชย์ มิได้อยู่ที่คมนาคม มิได้อยู่ที่พลังงาน
แล้วเหตุใดจึงปล่อยให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ออกมาสำแดงบทบาทโดยมิได้มีการทักท้วง
กระทั่งในที่สุดพรรคพลังประชารัฐต้องออกมาตอบโต้
หมัดแรกมาจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วยการปฏิเสธและเปิดโปงลักษณะส่วนตัวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
หมัดหลังปรากฏผ่านการเดินสายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่สนามศาลาประชาคม อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยผ่านปาก นายภิรมย์ พลวิเศษ
เป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มิใช่กระทรวงพาณิชย์
มีใครในพรรคเพื่อไทยไม่เคยรู้บ้างว่าเป้าหมาย นายสุชาติ ตันเจริญ มิใช่พลังงานหากแต่เป็นมหาดไทย
ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจเป็นอุตสาหกรรม
ส่วน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ทุกคนล้วนเคยเห็นหยาดน้ำตา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เมื่อถูกปลดออกจากเกษตรและสหกรณ์แล้วให้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไปนั่งแทน
การปล่อยข่าวจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จึงเป็นเพียง “ทริค” หนึ่งระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องลวง ระหว่างกระทรวงหลอกกับจริง
ที่สุดความในใจของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็เผยแสดง
เพราะเจตนาอย่างแท้จริงมิได้ต้องการสื่อไปยัง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสุชาติ ตันเจริญ หากแต่เป็น
1 พรรคพลังประชารัฐ และ 1 มวลชนของพรรคพลังประชารัฐ
นั่นก็คือ ส่งสัญญาณ “เตือน” ว่าเริ่มมีการจับจองเก้าอี้รัฐมนตรีเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่ไก่โห่
การยอมรับที่บัวใหญ่ โคราช นั่นแหละคือ “ใบเสร็จ”
น่ายินดีที่พรรคพลังประชารัฐมีนักการเมืองมากด้วยความจัดเจนระดับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสุชาติ ตันเจริญ
หมากตานี้ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เดินจึงเริ่มปรากฏผลออกมาเป็นลำดับ
เพราะมีการรับลูกจากภายในพรรคพลังประชารัฐทันท่วงที
โดยนักการเมืองมากประสบการณ์อย่าง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสุชาติ ตันเจริญ
