ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าตามภารกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีเรื่องนโยบายด้านการศึกษาของพรรค “เกิดปุ๊บรับแสน” (อ่านรายละเอียด) ปรากฎว่า เรื่องดงกล่าวมีประชาชนเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันเป็นจำนวนมาก เช่น
“ต่อจากนี้โลกจะเปลี่ยนไปเร็วมาก แต่การศึกษาเรายังเหมือนเดิม นโยบายต่าง ๆ ก็เช่นกัน แจก ๆ ๆ และไม่ได้แก้ที่ต้นตอของปัญหา คราวนี้คงเลือกพรรคที่แจกน้อยสุดละ”
“ถ้าตามหลักก็คงต้องจำกัดสิทธิ์ จำนวนตามแผนงานประชากรการส่งเสริมด้านอื่น สุดท้ายผลที่ได้มาถึงตัวเด็ก มันก็ถูกแบ่งไปเป็นขั้นๆ ตามระบบ ไม่ค่อยเต็มประสิทธิภาพแต่ถ้าตรงถึงเด็ก ก็เหลืออุปสรรคขั้นเดียวคือผู้ปกครอง น่าจะจัดการง่ายกว่าเยอะหลายคนชอบคิดว่าตัวอยู่คนเดียวไม่ยุ่งใคร คนอื่นคงเหมือนกันอาจมีแอบทำผิดลับๆ
ซึ่งผิด ที่จริงโครงข่ายสังคมแน่นกว่านั้น ยิ่งถ้าเป็นต่างจังหวัด ผู้ใหญ่บ้านจะรู้จักทุกคนดี แยะแยะกลุ่มเสี่ยง, คนแปลกหน้าไวมาก และจัดการวางกรอบผู้ต้องสงสัย… ไม่งั้นก็เพื่อนบ้านแจ้ง”
” การพัฒนาการศึกษา ทำได้หลายวิธีนะคับ สร้างสถานศึกษา เพิ่มจำนวนครูผู้สอน กระจาย ให้ถึง ทุกที่ น่าจะดีกว่าแจก เงินนะคับปัจจุบัน คนเข้าถึงสถานศึกษาดีๆ ยากมาก ราคาค่าเรียนก้อสูง เอางบ มาพัฒนา สถานศึกษา บุคลากร ให้เพียงพอ ต่อความต้องการดีกว่านะคับ”
” อย่าโกรธกันเลยนะ ขอพูดภาษาตรงๆไม่อ้อมแล้วกัน ผมขอพูดถึงความฉลาดน้อยของพรรคปชปหน่อยอาจเป็นเพราะปชป รวมนักพูดที่ประดิษฐ์คำพูดสวยๆเก่งแต่ไม่เฉลียวลองเทียบกันระหว่าง2พรรค
“โครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ” พอไปเจอจริงๆคือ 1.มันเรียนไม่ฟรีจริงต้องมีจ่าย 2.คุณภาพมันต่ำ ชาวบ้านเลยด่าคุณดีแต่พูดไงเทียบกับ30บาทรักษาทุกโรค ที่คนไปเจอคือจ่ายแค่30บาทแล้วจบไม่จ่ายอะไรเลย คนก็ประทับใจเพราะรักษาฟรีจริงๆ คุณภาพเป็นไงคนไม่พูดถึงเพราะเขาไม่ได้สัญญาไว้ตรงนั้น!
//ต่างกันตรงที่คุณเน้นคำว่า”คุณภาพ”ซึ่งมันโกหกไง ส่วนอีกพรรคแค่บอกว่า30บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเขาพูดจริง!//
แล้วคราวนี้10นโยบายก็มาแบบเดิม ไม่รู้คุณคิดยังไงถึงไปสัญญาว่า “มีคุณภาพ” ทั้งๆที่ทำไม่ได้แน่ๆ แต่คนก็จะมาสนใจแค่คำว่าคุณภาพแล้วละ ….
ผมว่าคุณเอางบมาพัฒนาให้มันเรียนฟรีได้จริงดีกว่ามาหาเสียงให้คนจับโกหกได้ นี่จะเอาเงินไปไล่แจกผู้ปกครองเดือนละพัน แต่ถึงวันนี้มันก็ยังเรียนฟรีไม่จริง ตลกที่ขำไม่ออก”
