‘วีแฟร์’ชง 7 ข้อ ‘รัฐสวัสดิการ’ ยื่นพรรคการเมือง 18-21 ธ.ค. แก้เหลื่อมล้ำ นัดถกผลหลังปีใหม่

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 ธันวาคม ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว เครือข่าย WE FAIR เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม ร่วมกับ โครงการเสริมศักยภาพเครือข่ายเพื่อการขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการสังคม และสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (คคสส.) แถลงข้อเสนอรัฐสวัสดิการต่อพรรคการเมือง

นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ เอ็นจีโอ กล่าวว่า ทางเครือข่ายได้รวบรวบข้อเสนอนโยบายรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า “จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน” เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและการเข้าถึงสวัสดิการทางสังคมและสุขภาวะ แบ่งเป็น 7 ประเด็น ดังนี้ 1.ด้านการศึกษา อาทิ เงินสนับสนุนเด็กและเยาวชนถ้วนหน้า อายุ 0-18 ปี จำนวน 3,000 บาท/เดือน เงินสนับสนุนเยาวชนถ้วนหน้าช่วงเรียนมหาวิทยาลัย หรืออนุปริญญา/ปวส. จำนวน 3,000 บาท/เดือน สถานศึกษามีการพัฒนามาตรฐานกลางงบประมาณรายหัวประชากร รายละ 16,000 บาท/คน/ปี ส่วนสถานศึกษาสำหรับประชากรกลุ่มเฉพาะให้พิจารณางบประมาณเพิ่มเติมได้ 2.ด้านสุขภาพ เสนอให้มีกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าระบบเดียว แต่มีคุณภาพสูง โดยงบประมาณด้านสุขภาพ เมื่อคิดตามรายหัวประชากรจะเท่ากับ 8,000-8,500 บาท/คน/ปี

3.เรื่องที่อยู่อาศัยและที่ดิน อาทิ การเข้าถึงระบบสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 2 ต่อปี การกระจายการถือครองที่ดินด้วยระบบภาษีอัตราก้าวหน้า ธนาคารที่ดิน และการปฏิรูปที่ดิน 4.เรื่องงาน, รายได้, ประกันสังคม โดยเสนอให้ค่าแรงขั้นต่ำตามดัชนีผู้บริโภคเป็น 500 บาท/วัน และให้ปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ ปฏิรูประบบประกันสังคมให้เป็นระบบประกันสังคมถ้วนหน้า รวมถึงเสนอให้ทุกเพศสภาพลาคลอดได้ 180 วัน

“5.ระบบบำนาญแห่งชาติ โดยวาระสำคัญคือ เปลี่ยนจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นบำนาญถ้วนหน้า เป็น 3,000 บาท/เดือน เพื่อเป็นหลักประกันทางรายได้ไม่ให้ต่ำกว่าเส้นความยากจนโดยเฉลี่ยของประเทศ 6.สิทธิทางสังคม พหุวัฒนธรรม และประชากรกลุ่มเฉพาะ เสนอให้เพิ่มเบี้ยยังชีพคนพิการจาก 800 บาท/เดือน เป็น 3,000 บาท/เดือน ทั้งนี้ คนพิการควรมีอิสระในการจัดซื้อกายอุปกรณ์เองตามวงเงินที่รัฐจัดให้ ด้านประชาชนทุกเพศสภาพต้องเข้าถึงรัฐสวัสดิการและการรักษาพยาบาล ครบคลุมถึงกระบวนการข้ามเพศให้ถือเป็นสิทธิพื้นฐาน ไม่ถือเป็นเรื่องความงาม เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนเพศ อย่างไรก็ตาม การทำรัฐสวัสดิการต้องใช้งบประมาณกว่า 1.4 ล้านล้านบาท ดังนั้น ประการสุดท้าย หากมีการปฏิรูปภาษีและจัดสรรงบประมาณโดยคำนึงถึงความเหลื่อมล้ำก็จะทำให้รัฐสวัสดิการเกิดขึ้นได้ คือ ควรลดหย่อนภาษีการส่งเสริมการลงทุนบีโอไอและการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงค่าเช่าที่ดินและผลกำไรทางธุรกิจ การลดหย่อนภาษีทุกเงื่อนไข อาทิ กองทุนแอลทีเอฟ ภาษีที่ดินส่วนเกิน 10 ไร่ โดยเก็บภาษีอัตราก้าวหน้าเริ่มต้นไร่ละ 2,000 บาท/ปี ปรับลดระบบบำนาญข้าราชการ ปรับลดงบประมาณกลาโหม 70 เปอร์เซ็นต์ ตลอดจนทุกคนควรยื่นภาษีเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ แม้รายได้ไม่ถึงตามหลักเกณฑ์ก็ตาม”นายนิติรัตน์กล่าว

Advertisement

นายนิติรัตน์กล่าวต่อว่า ในโอกาสการเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเครือข่ายจึงจัดกิจกรรมยื่นหนังสือชุดข้อเสนอ 7 ประเด็นดังกล่าวต่อพรรคการเมือง ณ ที่ทำการพรรค ระหว่างวันที่ 18-21 ธ.ค.61 ดังนี้ วันที่ 18 ธ.ค. พรรคสามัญชน พรรคอนาคตใหม่ พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย วันที่ 19 ธ.ค. พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย และพรรคภูมิใจไทย วันที่ 20 ธ.ค. พรรคประชาชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา และพรรคกรีน และวันที่ 21 ธ.ค. พรรคประชาธิปัตย์

“เครือข่ายเข้ายื่นหนังสือต่อพรรคการเมืองที่มีแนวโน้มสนับสนุนการทำรัฐสวัสดิการเท่านั้น โดยขณะนี้ยังรอการตอบรับจากพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเกรียนอยู่”

ด้านนายเดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การติดตามผลภายหลังยื่นข้อเสนอบางส่วนเริ่มเห็นชัดแล้ว อาทิ เรื่องเด็กเล็ก เนื่องจากเครือข่ายเคยเข้าร่วมเวทีเสวนาเมื่อวันที่ 23 พ.ย. โดยมีพรรคการเมือง 8 พรรคร่วมด้วย ซึ่งทุกพรรคมีแนวโน้มในทางบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงสวัสดิการเด็กเล็ก อย่างไรก็ตาม เครือข่ายอาจติดตามผลเฉพาะประเด็นใหญ่ เช่น เด็กเล็ก การศึกษา เรื่องบำนาญ หากติดตามในทุกเรื่อง ทางพรรคการเมืองคงลำบากใจ

Advertisement

“พรรคไหนที่มีแนวโน้มจะเห็นด้วย หลังปีใหม่เราจะชวนมาคุยกัน ทั้งนี้ เราไม่เคยมีแนวคิดในรูปแบบนี้ อาจมีคล้ายข้อตกลงร่วม ฉะนั้น เมื่อเข้าสู่รัฐสภาแล้ว เขาจะเดินหน้าแนวทางนี้อย่างไรก็คงชวนมาคุยกัน ส่วนแนวโน้มการเห็นด้วยอาจเป็นแค่ 2-3 พรรค แต่ร่วมมืออย่างจริงจัง มีคณะทำงานที่เข้าไปทำงานในสภา ซึ่งเราสามารถติดตามตัวแทนร่วมของพรรคเหล่านี้ได้ คิดว่าเป็นนิมิตหมายใหม่”นายเดชรัตน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image