วันที่ 25 มกราคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล ถึงกรณีที่นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า กรธ.ทำงานด้วยความเหนื่อยยาก แต่ถูกวิจารณ์ด้วยอคติถึงการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้ผ่านประชามติ ว่า “นายอมรไม่ควรบ่นว่า เหนื่อยเพราะไม่มีใครเชิญให้มาทำงาน มีแต่ตัวเองทำตัวให้เห็นความสำคัญ แล้วแต่งตั้งมาร่างรัฐธรรมนูญการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เต็มไปด้วยคนไม่ใส่ใจอำนาจของประชาชน และคนพวกนี้ไม่มีที่ยืนในเวทีประชาธิปไตย แต่ชอบรถถัง ปืน มาสร้างให้มีคุณค่าของเผด็จการ ดังนั้นในเวทีเผด็จการจึงกล้าพูดสร้างความสำคัญให้เผด็จการเห็นตัวเอง”
นายจตุพรกล่าวว่า การประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นเนื้อหาครบทั้งหมด เพียงการแถลงออกมาเป็นรายวันนั้น สามารถเข้าใจเนื้อหาที่เป็นเผด็จการได้อย่างชัดเจน ส่วนร่างรัฐธรรมนูญมีกลไกเล่นงานการทุจริตนั้น ตนไม่กลัว ถ้ากลไกได้ทำงานตรวจสอบด้วยมาตรฐานเท่าเทียมกัน โดยไม่เข้มงวดเฉพาะบางกลุ่ม บางพรรคการเมืองเท่านั้น ดังนั้น สิ่งที่น่ากลัวในสังคมทุกวันนี้ คือ คนไม่ดีตั้งแต่หัวจดเท้าสามารถประกาศตัวเองเป็นคนดีอย่างน่าตาเฉย แล้วกล่าวหาว่า คนอื่นในฝ่ายตรงข้ามเป็นคนไม่ดี
ดังนั้น การเขียนรัฐธรรมนูญขณะนี้ เกิดกลุ่มคนที่ชื่นชอบเผด็จการจึงสะท้อนได้ชัดว่า รัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ จึงขึ้นอยู่กับว่า ใส่ใจกับอำนาจเป็นของประชาชนหรือไม่ ถ้าไม่เป็นของประชาชนก็คือ เผด็จการ รวมทั้งการร่างรัฐธรรมนูญบนฐานความชิงชังตัวบุคคล ย่อมทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย
นายจตุพร เรียกร้องว่า ถึงวันนี้เราต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ถ้าจิตใจยังมักง่าย คิดแต่เรื่องชนะเลือกตั้ง แต่ปัญหาจริงๆ อยู่ที่ความเป็นประชาธิปไตย เพราะหากเลือกตั้งชนะก็อยู่ได้ไม่กี่วัน ก็เกิดความขัดแย้งแล้วทำให้ทหารกลับมายึดอำนาจวนเวียนไม่หยุดหย่อน ดังนั้น จึงต้องตัดสินใจเด็ดขาด เพื่อจะนำพาบ้านเมืองไปสู่ประชาธิปไตยให้ได้ ส่วนการเปิดเนื้อหารัฐธรรมนูญออกมาเพียงเบื้องต้น โดยให้วุฒิสมาชิกมาจากการลากตั้ง นายกรัฐมนตรีเป็นคนนอกได้ การแก้รัฐธรรมนูญก็ทำได้ยาก ต้องใช้เสียง 10% ของทุกพรรคจึงแก้ไขได้ รวมทั้งให้องค์กรอิสระมีอำนาจเพิ่มในการควบคุม ตรวจสอบนักการเมือง เพียงแค่นี้ก็มองเห็นเนื้อหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตยแล้ว ตนจึงตัดสินใจเด็ดขาดว่า ต้องคว่ำในขั้นทำประชามติ
“เราต้องตัดสินใจให้เสร็จว่าคว่ำ เพราะเชื่อว่า พรรคการเมืองต้องสร้างให้นักเลือกตั้งเป็นนักประชาธิปไตย และองค์กรทางการเมืองก็ต้องเป็นประชาธิปไตย จึงไม่ควรสนับสนุนเนื้อหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย สาเหตุที่บ้านเมืองเดินไปไม่ถึงไหนนั้น มาจากไม่ได้ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยอย่างจริงจัง อย่าสู้ไปก็เจรจารอมชอมกันไป แล้วได้ดี คนสู้จริงกลับถูกเล่นงาน” นายจตุพรกล่าว
ทั้งนี้ ตนได้ชวนพรรคการเมืองทุกพรรคให้มาสนใจความรู้สึกของประชาชน โดยให้มีจิตใจเพื่อประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง อย่าได้ใจอ่อนเพื่อไปเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยจอมปลอม เพราะการทำเช่นนั้นเท่ากับไปแย่ห้องดับจิตในช่วงระยะสุดท้ายของอำนาจ แต่นักประชาธิปไตยควรมั่นคง ยืนหยัดประกาศพร้อมกันทั่วประเทศว่า ร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เอา อยากอยู่นานก็อยู่ไป ส่วนพวกเราจะสร้างชัยชนะให้ประชาชนอย่างถาวรเพื่ออนาคตของลูกหลาน เพราะเวลาต่อสู้เหลือกันไม่มากแล้ว