รองเลขากกต. แจง หากมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว จัดระดมทุนไม่ได้ แต่รับบริจาคทำได้ตลอด เชื่อ พรรคการเมืองศึกษามาก่อนแล้ว เตือนก่อนมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง พรรคทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าทำให้เลือกตั้งไม่สุจริต กกต.มีสิทธิเแจกใบเหลืองได้ก่อน
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างประชุมชี้แจงการดำเนินกิจกรรมให้แก่พรรคการเมืองจัดตั้งใหม่ 13 พรรคการเมืองถึงการรับบริจาคและการระดมทุน ว่าก่อนหน้านี้กกต.ได้มีหนังสือตอบไปยังพรรรคการเมืองแล้วว่า ทั้งเงินบริจาคและเงินระดมทุนผู้ให้จะสามารถให้ได้ไม่เกินคนละ 10 ล้านต่อคนต่อปี โดยการรับบริจาคสามารถรับเงินบริจาคได้ตลอด แต่การระดมทุนพรรคจะทำได้แค่จนถึงแค่วันก่อนมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง เมื่อมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้วทำไม่ได้ ดังนั้นถ้าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 พรรคการเมืองที่จะระดมทุนก็ต้องมองให้ออกว่าพ.ร.ฎ.เลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงไหนและวางแผนดำเนินการให้ดี
” ที่พรรคการเมืองมีการไประดมทุนและเป็นข่าวในขณะนี้ คิดว่าทางพรรคเขาน่าจะศึกษากฎหมายแล้ว แต่สุดท้ายทุกอย่างมันมีที่มาในทุกเรื่อง ไม่ต้องมาบอกว่ากกต.ต้องไปสอบสวน มันมีเขียนอยู่ในระเบียบกกต.แล้วว่าพรรคการเมืองต้องประกาศหรือแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองอย่างไร ซึ่งก็ต้องให้เวลากับพรรคการเมืองเขาดำเนินการ”
นายแสวง กล่าวถึงการหาเสียงของพรรคการเมืองว่า ขณะที่ยังไม่มีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง พรรคการเมืองสามารถทำอะไรก็ได้ที่กฎหมายซึ่งมีอยู่ในปัจุบันไม่กำหนดเป็นความผิด เช่น การติดป้ายหาเสียงในที่ของเอกชน แต่เมื่อมีพ.ร.ฎ. เลือกตั้ง ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง ที่คาดว่ากกต.จะมีการออกหลักเกณฑ์ดังกล่าวในช่วงสัปดาห์นหน้า โดย หลักเกณฑ์การหาเสียง ยืนยันว่ากกต.ไม่ได้ลดเสรีภาพในการดำเนินการของพรรคการเมืองที่เคยทำมา ทั้งการแจกเอกสารแผ่นพับ สติกเกอร์ การใช้รถหาเสียง การหาเสียงทางอิเล็คทรอนิกส์ ถ้าทำในนามส่วนตัวก่อนมีพ.ร.ฎ.ไม่ถือเป็นค่าใช้จ่าย แต่ถ้าติดในนามพรรคการเมือง จะต้องนำมาคำนวนเป็นค่าใช้จ่ายของพรรค อย่างไรก็ตามเมื่อมีพ.ร.ฎ. เลือกตั้งแล้ว การดำเนินการในสิ่งเหล่านี้จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กกต.กำหนดเพราะกฎหมายกำหนดให้กกต.ต้องจัดให้การหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองเป็นไปด้วยความเสมอภาค เท่าเทียม
“ตรงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เป็นเพียงแต่การจะนำมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายเลือกตั้งกกฎหมายให้เริ่มเมื่อมีพ.ร.ฎ เลือกตั้ง กรณีการกระทำผิด ณ วันนี้พ.ร.ป.ว่าด้วยกกต.มีผลแล้ว หากมีการกระทำผิด ทุจริต หรือทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นไม่สุจริต กฎหมายให้อำนาจกกต.สามารถสั่งเลือกตั้งใหม่ได้ก่อนมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกพรรคระมัดระวัง
นอกจากนี้นายแสวงยังทำความเข้าใจกับพรรคการเมืองในเรื่องนโยบายที่จะใช้หาเสียงว่า หากเป็นนโยบายที่ต้องใช้จ่ายเงินจะต้องเป็นไปตามมาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง การประกาศนโบายนั้น ๆต้องมีองค์ประกอบ 3 ข้อ คือ 1 วงเงินที่ต้องใช้และที่มาของเงินที่ใช้ในการดำเนินการ 2. ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย และ 3 ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย ซึ่งกฎหมายให้พรรคการเมืองประกาศนโยบายหาเสียงดังกล่าวได้เลย ไม่ต้องมายื่นหรือแจ้งขอความเห็นชอบต่อกกต.ก่อน แต่ประกาศไปแล้วถ้าความปรากฎต่อกกต.ว่าพรรคการเมืองดำเนินการไม่ครบถ้วนใน 3 ข้อกกต.ก็จะแจ้งให้พรรคดำเนินการให้ครบถ้วนถูกต้อง
