เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 22 ธันวาคม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรค เขตหนองจอก โดยมีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค นายปิยะณัฐ วัชราภรณ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรค และประชาชนในพื้นที่ที่สนับสนุนร่วมงาน พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตหนองจอก. กทม.นายศิริพงษ์ รัสมี อดีตประธานสภาเขต(ส.ข.) หนองจอก พรรคเพื่อไทย
นายสนธิรัตน์ ขึ้นเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า สาเหตุที่เลือกพื้นเขตหนองจอก เพราะอยากเห็นการยกระดับให้เท่าเทียมพื้นที่อื่นใน กทม. ซึ่งวันนี้ยังเติบโตไม่เทียบเท่ากับพื้นที่อื่น สาเหตุใหญ่เกิดจากคนที่ดูแลพื้นที่ ยังไม่ทุ่มเทให้กับประชาชนอย่างแท้จริง และมั่นใจว่าทุกคนยินดีต้อนรับพรรคพลัง พปชร.ด้วยหัวใจที่แท้จริง
“ที่ผ่านมาไม่เคยมียุคไหนในประเทศไทยที่ความขัดแย้งแยกสีแยกขั้วเกิดขึ้นมากที่สุดในประเทศไทย แม้แต่คนบ้านเดียวกันผัวไปทาง เมียไปทาง สาเหตุเพราะอยู่กันคนละสี ถือเป็นเวรกรรม สิ่งเหล่านี้มันเกิดครั้งแล้วครั้งเล่า เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น คุยอะไรกันคุยแต่ถ้าคุยเรื่องสีชกกันดีกว่า ประเทศไทยตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ เดินไปที่ไหนกลัวระเบิดร่วงลงมา ไม่แน่ใจอยู่กรุงเทพฯหรือซาอุดิอาระเบีย เพราะไม่รู้ว่าระเบิดอยู่ตรงไหน และเหตุการณ์หนึ่งที่จำได้ไม่ลืม ในการจัดงานเค้าท์ดาวน์ในเทศกาลปีใหม่ มีการจัดงานหน้าห้างสรรพสินค้าเวิร์ดเทรดเซ็นเตอร์ มีคนไปร่วมงานเป็นหมื่นคน ทุกคนจูงมือกันไปร่วมงานเพื่อมีความสุข แล้วเวลาประมาณ 4-5 โมงเย็น อยู่ดีๆก็มีระเบิดใกล้ๆตู้โทรศัพท์ ทำให้มีคนตาย แล้วคิดว่าการเมืองแบบนี้ประชาชนยังจะเอาอยู่อีกหรือไม่ เราเอาแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด เอามาทำไม เอามาแล้วมายิงกันอีกแล้วจะทำอย่างไร พรรคพลังประชารัฐจึงต้องเกิดขึ้น“
นายสนธิรัตน์ กล่าวตอนท้ายว่า เมื่อพรรค พปชร. เปิดตัวออกมาก็มีรัศมีดูดี มีอดีตรัฐมนตรี อดีตส.ส.เดินเข้าพรรคเป็นแถว แต่ปรากฎว่าทุกคนต่างรุมถล่มพรรคพลังประชารัฐทุกวัน เพราะกลัวว่าประชาชนจะเลือกพรรค พปชร. จึงต้องรุมถล่ม วันนี้อยากถามประชาชนจะเลือกคนดีแล้วถูกถล่มหรือไม่
