เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นายรุจ รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวโจมตีนายอำเภอบ้านไผ่ นำ นายเจริญ แซ่เต็ง ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน พร้อมแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า ตนเองรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นข่าวลงไปอย่างนั้น ซึ่งตลอดการทำงานที่ผ่านมา ตัวเองมุ่งมั่น ที่จะทำงานอย่างโปร่งใสมาตลอด และทุกครั้งที่ลงพื้นที่พบกับประชาชน จะลง Facebook เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามมาโดยตลอด ขอยืนยันว่าไม่ได้มีการนำผู้สมัครของพรรคต่างๆ ลงในพื้นที่ แจกบัตรประชารัฐด้วยเลย ซึ่งการแจกบัตรประชารัฐนั้น ทางอำเภอได้มีแผนลงแจกบัตรให้กับประชาชน โยได้ส่งแผนให้กับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทราบก่อนลงพื้นที่ เพื่อที่จะได้แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ตนเองทราบและมารับบัตรโดยพร้อมเพรียงกัน และไม่มีการตกหล่น หรือหากมีผู้ที่ยังไม่พร้อม ก็สามารถขอใบมอบอำนาจที่จะรับแทน กลับไปดำเนินการต่อนั้น
นายรุจ กล่าวต่ออีกว่า ทางอำเภอบ้านไผ่ ได้เข้าไปรับบัตรประชารัฐจาก นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม และกลับมาเขียนแผนว่าจะเดินทางแจกบัตรให้ครบทุกตำบลภายในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ และได้ส่งแผนให้กับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น ซึ่งตนได้เริ่มแจกบัตรตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมเป็นวันแรก และได้จ่ายบัตรไปแล้ว 2 จุด ตามที่กำหนดไว้ และวันที่ 21 ธันวาคม เป็นวันที่ 2 ตามแผน ได้วางไว้ว่าจะแจกบัตรทั้ง หมด 4 จุด ช่วงเช้า 2 จุด และ ช่วงบ่าย อีก 2 จุด แต่ละจุดอยู่ห่างกันมาก การลงพื้นที่แจกบัตรนั้น เราไม่ได้มีการเชิญผู้ไดเข้าร่วมแจก นายอำเภอเป็นประธานพบปะประชาชน และพิธีมอบบัตรให้กับประชาชนพร้อมถ่ายรูป และก็ไปมอบต่อยังจุดต่อไป
“ซึ่งจุดที่มีกระแสข่าวนั้น เป็นจุดที่ 4 คือที่ บ้านลาน ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จุดสุดท้าย ที่นายอำเภอไปมอบ ตอนที่ไปถึงนั้นนายอำเภอก็ได้พูดคุยกับประชาชนและทำพิธีมอบบัตร แต่ตอนที่นายอำเภอไปถึงนั้นไม่ได้เห็น นายเจริญ แซ่เต็ง ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แต่อย่างได จนเมื่อทำพิธีมอบบัตรและกำลังถ่ายรูปอยู่นั้น นายเจริญ เดินทางมาถึง และร่วมถ่ายภาพด้วย ซึ่งตนเองเมื่อถ่ายภาพเสร็จ ก็รีบเดินทางไปซ้อมรำ ทันที และไม่ทราบว่าหลังจากที่ตนออกมาแล้ว มีการพูดคุยกันอย่างไรต่อไปอีกหรือไม่ ไม่คิดว่าจะมีข่าว แบบนี้ออกมา ซึ่งคิดว่าการที่นายอำเภอออกไปมอบบัตร ทุกคนต้องทราบเพราะมีแผนส่งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนต้องบอกชาวบ้านต่อ นายอำเภอก็ไม่ทราบว่าจะมีผู้สมัครของพรรคต่างๆจะไปร่วมด้วย ซึ่งเรื่องทางการเมืองตนไม่ยุ่งด้วยอยู่แล้ว”นายรุจกล่าว และว่า เมื่อมีข่าวออกมาลักษณะแบบนี้นั้นทำให้ตนมีความรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งตัวเองทำตัวเป็นกลางมาตลอด ไม่ได้เข้าข้างกับผู้สมัครพรรคใดทั้งสิ้น เพียงแต่อยากทำหน้าที่ดูแลประชาชนให้ดีที่สุดเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรุจ ยังเอาแผนที่จะลงมอบบัตรประชารัฐ พร้อมทั้งแคปภาพที่ลงพื้นที่แจกบัตรประชารัฐ ที่ตนเองจะนำไปลงยัง Facebook มาให้ผู้สื่อข่าวดูอีกด้วย
