เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม เวลา 20.00 น. ที่บริเวณลานด้านหน้าศาลากลางหลังเดิม (หน้าเขื่อน) อ.เมือง จ.สิงห์บุรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สิงห์บุรี นายภูวเดช มังสาทอง อดีตนายก อบต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พร้อมด้วย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และ นายยงยุทธ ติยะไพรัช นายรังสี เสรีชัย นายพรศักดิ์ ศรีละมุล นายศักดา นพสิทธิ์ มาร่วมขึ้นเวทีปราศรัย โดยมีประชาชนมาให้กำลังใจกว่า 700 คน
นายภูวเดช มังสาทอง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สิงห์บุรี พรรคเพื่อชาติ ได้กล่าวว่า ประเทศชาติจะพัฒนาไปได้ประชาชนต้องร่วมมือร่วมใจกัน ถ้าประเทศชาติยังมีความขัดแย้งอยู่ก็ยากที่จะพัฒนาอย่างสำเร็จ ในส่วนตัวของผมมีความคิดเห็นที่จะเสนอกับทางพรรคเพื่อชาติคือ การแก้ไขปัญหาเรื่องราคาข้าว เพราะประชาชนชาวสิงห์บุรีส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ถ้าสามารถแก้ไขในเรื่องราคาข้าวให้เหมาะสมได้แล้วพี่น้องเกษตรกรชาวนาก็จะสามารถลืมตาอ้าปากได้ ถ้าแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนได้ก็จะสามารถพัฒนาในเรื่องอื่นได้ต่อไป อีกเรื่องคือ ส่งเสริมทางด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจาก จังหวัดสิงห์บุรีมีต้นทุนที่ดีอยู่แล้วในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อีกทั้งชาวจังหวัดสิงห์บุรีมีอัธยาศัยที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และน้ำใจที่โอบอ้อมอารี ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวต่างพากันประทับใจ ถ้าได้มีการพัฒนาต่อยอดส่งเสริมทางด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ก็จะทำให้ประชาชนชาวจังหวัดสิงห์บุรีมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนตัวผมนั้นมีความตั้งใจที่จะทำงานรับใช้พี่น้องชาวจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อพัฒนาในทุกๆ ด้านในจังหวัดสิงห์บุรีอย่างยั่งยืน อย่างแท้จริงในนาม พรรคเพื่อชาติ ทำเพื่อชาติ และพี่น้องประชาชน
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์พรรคเพื่อชาติ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยและกล่าวว่า ขอฝากผู้สมัคร นายภูวเดช มังสาทอง พรรคเพื่อชาติ ให้ประชาชนชาวจังหวัดสิงห์บุรี เลือกไว้ด้วย โดยนโยบายของพรรคเพื่อชาตินั้นคือการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก ปัญหายาเสพติด ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น และที่จะเน้นมากที่สุดคือ หลักประชาธิปไตย ตั้งแต่ 5 ปี ที่ผ่านมา รัฐบาลปัจจุบันที่เข้ามาบริหารประเทศ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนได้ ดังนั้นเราต้องการการเลือกตั้ง ต้องการได้ผู้บริหารที่เป็นคนที่เข้าใจปัญหามาแก้ปัญหาให้กับพี่น้อง และที่สำคัญคือ ต้องเป็นประชาธิปไตยที่ไม่ใช่เผด็จการ โดย นายจตุพร ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ความสุขของผม คือ เห็นพี่น้องมีคุณภาพที่ดีขึ้น บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย บ้านเมืองมีความสงบสุข ผมอยากเรียนให้พี่น้องชาวสิงห์บุรี ว่า เราต้องร่วมสร้างความสุขด้วยการต่อสู้ร่วมกัน ฟันฝ่าร่วมกัน สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ มีพรรคการเมืองใหม่ซักพรรค ถ้าพี่น้องให้โอกาสเขา เขาก็จะไปทำหน้าที่ในสภาฯ ก็จะได้แก้ไขความทุกข์ได้ ทุกเรื่องราวที่เป็นทุกข์แก้ไขได้ด้วยเสียงประชาชนเท่านั้น
