ปชป.สงขลาระส่ำหนัก หลังนิพนธ์ทำไพรมารีโหวต ส่งลูกตัวเองเข้าเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แทนอดีต ส.ส. 4 สมัยอย่างเจือ ราชสีห์ ในขณะที่เจือควงอดีต ส.ส.สงขลารวม 3 คน ตั้งโต๊ะแถลงไม่ยอมรับผลไพรมารีโหวตครั้งนี้ เพราะไม่ทราบล่วงหน้า งุบงิบทำกัน โดยวางแผนยึดสาขาพรรคเพื่อเสนอชื่อลูกชายตัวเอง เตรียมส่งหนังสือค้านขอความเป็นธรรมไปยังคณะกรรมการบริหารพรรค
รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ภายหลังการทำไพรมารีโหวต เพื่อเลือกตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 สงขลา โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลงานสมาชิกพรรคและงานท้องถิ่น รวมทั้งเป็น 1 ใน 11 คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ดำเนินการ ระหว่างนายเจือ ราชสีห์ อดีต ส.ส.เขต 1 สงขลา 4 สมัย กับนายสรรเพชญ บุญญามณี บุตรชายของนายนิพนธ์ เมื่อ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฏว่านายเจือ พ่ายแพ้ไม่เป็นท่า เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่าเป็นความพยายามสืบทอดมรดกทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายสรรเพชญได้เสนอตัวเพื่อลงสมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 5 สงขลา แทนนายประพร เอกอุรุ ที่เสียชีวิตลง แต่ในครั้งนั้นมีผู้เสนอตัวถึง 4 คน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำโพล ซึ่งปรากฏว่านายเดชอิศม์ ขาวทอง ได้คะแนนนำแบบทิ้งห่างร้อยละ 80 ในขณะที่นายสรรเพชญได้เพียงร้อยละ 9 เท่านั้น แต่ก็ยังมีความพยายามที่จะมาเสนอตัวในเขตเลือกตั้งที่ 1 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ที่อดีต ส.ส.คนเดิมคือนายเจือ ซึ่งมีอาวุโสและยังอยู่ ยังคงทำงานการเมืองในนามพรรค และไม่มีความผิดอะไร รวมถึงยังมีประชาชนและสมาชิกพรรคให้การสนับสนุนอย่างล้นหลาม
เวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ที่บ้านพักของนายเจือ ราชสีห์ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง นายเจือ พร้อมด้วยนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.เขต 6 สงขลา นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีต ส.ส.เขต 4 พร้อมกับนายณฐพร มีสุวรรณ รักษาการประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันเปิดแถลงข่าวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีประชาชนที่ให้การสนับสนุนนายเจือ กว่า 300 คน นำดอกกุหลาบมามอบให้กำลังใจ
นายเจือกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เริ่มต้นจากการยึดสาขาพรรค โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้กำหนดให้จัดตั้งสาขาพรรคภาคละ 2 สาขา ภาคใต้ คือ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลา โดยที่จังหวัดสงขลามอบให้นายนิพนธ์ บุญญามณี ดำเนินการ ตามความชอบธรรมนั้น นายนิพนธ์เคยเป็นอดีต ส.ส.เขต 5 จึงควรตั้งสาขาพรรคในเขตเลือกตั้งที่ 5 แต่กลับมาตั้งในเขตที่ 1 ซึ่งตนเองเป็นอดีต ส.ส.และเตรียมการจัดตั้งสาขาไว้แล้ว โดยหากนายนิพนธ์ไม่มีวาระซ่อนเร้น ก็สามารถมอบอำนาจให้ตนดำเนินการได้ แต่กลับดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรค โดยไม่แจ้งตนซึ่งเป็นอดีต ส.ส.พื้นที่ และไม่แจ้งรักษาการประธานสาขาพรรคที่ถือเป็นผู้อาวุโสตามหลักที่ควรจะทำ ซึ่งมีผู้หวังดีกับตนพูดมานานแล้วว่า “นายนิพนธ์มีความพยายามที่จะยึดสาขาพรรค เพื่อส่งลูกชายของตัวเองลงสมัคร ส.ส.ของพรรค” ซึ่งในที่สุดก็เป็นความจริง การจัดตั้งสาขาพรรคจึงไม่ชอบธรรม โดยในวันทำไพรมารีโหวต เมื่อ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็งุบงิบกันทำ ทั้งคนที่ทำหน้าที่รับลงคะแนน คนที่ไปใช้สิทธิ ล้วนแล้วแต่เป็นคนของนายนิพนธ์ทั้งนั้น มีการไปบอกตามหมู่บ้านต่างๆ ให้ไปใช้สิทธิ โดยให้เลือกเบอร์ 2 แล้ว ตนเองนั้นได้เบอร์ 1 ถามว่าใครเป็นคนจับให้ตนได้เบอร์ 1 ตนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย จึงไม่ยอมรับ และขอคัดค้านผลไพรมารีโหวต
โดยในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปยังพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านและขอให้ตรวจสอบการลงคะแนนเลือกตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 สงขลา รวมถึงขอให้ยกเลิกการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคประชาธิปัตย์ ในคราวเดียวกัน โดยเชื่อมั่นว่าจะยังคงได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการบริหารพรรค
สำหรับหนังสือที่จะส่งไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น มีใจความระบุว่า การจัดตั้งสาขาพรรคประชาธิปัตย์จังหวัดสงขลาประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่จัดตั้งโดยนายนิพนธ์ บุญญามณี ที่โรงแรมกรีนเวิลด์พาเลซสงขลาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม โดยไม่ได้กำหนดไว้ในประกาศข่าวประชาสัมพันธ์ของพรรคประชาธิปัตย์และยังไม่มีการแจ้งให้กับอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 และคณะกรรมการสาขาพรรคทราบแต่อย่างใด โดยอดีตประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์เขตเลือกตั้งที่ 1 ได้ทำหนังสือคัดค้านไว้แล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขและนายนิพนธ์ บุญญามณี ได้ใช้โอกาสให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวจัดการลงคะแนนเลือกนายสรรเพชญ บุญญามณี เป็นตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดสงขลาพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งไม่อาจยอมรับได้และขอคัดค้านผลการลงคะแนน โดยการประชุมจัดตั้งสาขาพรรคประชาธิปัตย์จังหวัดสงขลาเมื่อ 2 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น ประธานและคณะกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์จังหวัดสงขลาที่ได้รับการเลือกตั้งล้วนเป็นคนใกล้ชิดของนายนิพนธ์เพื่อใช้เป็นช่องทางในการจัดการลงคะแนนเลือกนายสรรเพชญและการจัดลงคะแนนเลือกตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดสงขลา หรือ Primary vote เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมืองจังหวัดสงขลา ที่ผ่านมานั้นเห็นว่าไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดสงขลาทราบข่าวอย่างทั่วถึง อีกทั้งไม่ได้แจ้งข่าวให้นายเจือ ราชสีห์ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 และอดีตคณะกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ที่ปฏิบัติงานตลอดมาอย่างยาวนานให้รับทราบแต่อย่างใด
สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เขตเลือกตั้งที่ 1 สงขลา มีจำนวน 2,525 คนตามฐานข้อมูลสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์โดยการจัดลงคะแนน Primary vote มีผู้มาใช้สิทธิ 1,105 คน นายสรรเพชญได้รับคะแนน 1,019 คะแนนจึงขอตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มผู้มาใช้สิทธิเป็นกลุ่มที่นายนิพนธ์ บุญญามณีและพวกได้จัดตั้งขึ้นมาหรือไม่ และในบัตรเลือกตั้งตัวแทนไม่มีการระบุชื่อมีเพียงหมายเลขเท่านั้น และตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าผู้มาใช้สิทธิทราบได้อย่างไรว่าเบอร์ 2 เป็นนายสรรเพชญ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ทุกคนทุกฝ่ายล้วนเป็นคนของนายนิพนธ์ บุญญามณี ทั้งสิ้น จึงไม่มีความน่าเชื่อถือหรือขาดความโปร่งใสเป็นการรวบรัดจัดฉากนำเอาผลคะแนนที่มิชอบซึ่งขัดแย้งกับสภาพความเป็นจริงเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดสงขลา รวมถึงการจัดการลงคะแนนก็ใช้ระยะเวลาที่สั้นขัดกับหลักความเป็นจริงคือใช้เวลาเพียงครึ่งวันแต่มีผู้มาใช้สิทธิ 1,105 คน เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้เสมอเป็นการรวบรัดจัดฉากขึ้นมาเพื่อให้นายสรรเพชญได้ประโยชน์จากการโหวตในครั้งนี้
ด้วยเหตุผลดังกล่าวเห็นว่านายนิพนธ์ได้วางแผนเป็นขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ให้กลุ่มบุคคลของตนเองเข้าเป็นคณะกรรมการบริหารสาขาพรรคประชาธิปัตย์เขต 1 สงขลา ในขณะที่ตนเองก็ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์อยู่ด้วย ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงในการให้นายสรรเพชญบุตรชายของตนเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยไม่คำนึงถึงหลักการความถูกต้องและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับพรรค จึงขอให้พรรคดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงและตรวจสอบการกระทำของนายนิพนธ์ บุญญามณี กับพวก เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน ในเขต 1 สงขลาที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับคืนมา นายเจือยืนยันว่าไม่อาจยอมรับผลคะแนนและขอคัดค้านการลงคะแนนเลือกตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์เขต 1 สงขลา เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม
