หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเย้ยยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คล้ายรายงานวิจัยของนักศึกษา

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเย้ยยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คล้ายรายงานวิจัยของนักศึกษา ประเมินหลังเลือกตั้งบ้านเมืองสงบเรียบร้อยประชาชนอยากฟื้นฟูเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางไปเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 3 เขตในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่ากรณีการสำรวจความเห็นของซุปเปอร์โพลยืนยันพรรคเพื่อไทยได้รับความนิยมเหนือกว่าพรรคอื่น เชื่อว่าตรงตามข้อเท็จจริงหลังจากที่ผ่านมาได้เดินทางไปพบประชาชนทุกภาค พบว่าอารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่มีความอัดอั้นตันใจ ปัญหาปากท้องปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่บางคนบอกว่าลูกต้องออกจากโรงเรียน เพราะรายได้ไม่เพียงพอที่จะดำรงชีพ ซึ่งสืบเนื่องมาจากระบบการปกครองในขณะนี้ที่นานาชาติแสดงความรังเกียจ ไม่ต้องการคบค้าสมาคมหรือทำการค้าขาย ทำรายได้ประชาชาติลดลง และภายในประเทศมีสถานะรวยกระจุกจนกระจาย สำหรับผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรโดยภาพรวมเดือดร้อนมาก

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า สำหรับนโยบายของพรรคที่จะประกาศช่วงหาเสียงขณะนี้ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว และคาดว่าอีกไม่นานจะแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นผลมาจากการรับฟังความเห็นของประชาชนทั้งประเทศ เชื่อว่าจะเป็นนโยบายที่ประชาชนให้การตอบรับ และส่วนตัวเชื่อว่าหลังการเลือกตั้งบ้านเมืองคงสงบเรียบร้อย เนื่องจากประชาชนไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก ส่วนความเห็นที่แตกต่างกันของพรรคการเมืองอย่ามองเป็นเรื่องความไม่สงบหรือขัดแย้ง ซึ่งต่างจากการใช้ความเห็นของผู้นำเพียงคนเดียว สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังมีหลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าจะทำหน้าที่ได้อย่างสุจริตและเที่ยงธรรมจริงหรือไม่ องค์กรอิสระจะถูกแทรกแซงและเป็นอิสระจริงหรือไม่ ทุกฝ่ายต้องช่วยกันตรวจสอบ เพราะบางองค์กรก็เอียงมาก

“สำหรับสมาชิกพรรคเดิมหรืออดีตผู้สมัคร ส.ส.ที่เปลี่ยนไปทำงานกับพรรคอื่น 20 กว่าราย ผมไม่ต้องการตำหนิใคร เพราะว่าเป็นธรรมชาติของการเลือกตั้งทุกครั้ง ไม่ใช่ไม่เคยมีมาก่อน การตัดสินใจบนพื้นฐานอะไรของแต่ละบุคคลผมเคารพ คงมีเหตุผลส่วนตัวถ้าจะไปก็ไม่ว่ากันและขอให้โชคดี ส่วนปัญหาภายในพรรคยังเรียบร้อย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะทำหน้าที่เดินสายปราศรัยทั่วประเทศตามที่ประกาศไว้ แต่คงไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้ 250 ที่นั่งหรือไม่ และปัญหาที่พรรคต้องบริหารจัดการก่อนเปิดรับสมัครเลือกตั้ง กรณีผู้สมัคร ส.ส.เขต อีก 10% ยังไม่เรียบร้อยมาจากการแบ่งเขตใหม่ของ กกต.บางพื้นที่พิกลพิการ ไม่เหมือนเดิมที่แบ่งโดยธรรมชาติ ทำให้ผู้สมัครหลายเขตไม่ลงตัว อดีต ส.ส.ที่เป็นเจ้าของพื้นที่มีความสับสนซึ่งจะต้องพูดคุยและประนีประนอมหลายคนยังไม่ยอมกัน แต่ทุกคนเป็นพี่น้องกันคงคุยกันได้” พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าว

Advertisement

 

เกาะติดการเมือง กับ Line@มติชนการเมือง

เพิ่มเพื่อน

Advertisement

พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวอีกว่า ยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคจะเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนและตัดสินใจได้ว่าระบอบการปกครองแบบใดที่จะทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง หรือเลือกแบบใดจะทำให้ต่างชาติไม่คบค้าและมีผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจมีปัญหาการลงทุนให้บ้านเมืองมีวิกฤตอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ การหาเสียงจะไม่มีการปราศรัยโจมตีพรรคอื่นแบบการเมืองเก่า และสนับสนุนให้องค์กรต่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ถ้าสุจริตจริง เป็นธรรมก็ไม่ต้องวิตก และส่วนตัวสำหรับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องดูบรรยากาศหลังการเลือกตั้งจะแก้ได้จริงหรือแก้ประเด็นใด เพราะของเดิมเขียนไว้เพื่อไม่ให้แก้ไข ดังนั้น ต้องติดตามหลังเลือกตั้งว่าพรรคการเมืองที่จะรับเลือกไปทำงานในสภาจะหนาแน่นเพียงพอหรือไม่

“ส่วนยุทธศาสตร์ 20 ปี ผมอ่านหลายรอบดูแล้วพูดตรงๆ ว่าไมมีสาระอะไร เหมือนกับรายงานวิจัยของนักศึกษา สงสัยว่าไปลอกรายงานวิจัยของ วปอ.มาหรือไม่ และส่วนตัวเห็นว่าหลังมีประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งแล้ว หากบางพรรคการเมืองมีการนำรายชื่อของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันไปอยู่บัญชีนายกรัฐมนตรี ก็ขอให้แยกแยะระหว่างการดำรงตำแหน่งกับการทำหน้าที่นักการเมือง ต้องออกไปหาเสียง เชื่อว่าผู้มีอำนาจต้องคิดให้ได้เพราะเป็นผู้ใหญ่แล้ว รวมทั้งรัฐมนตรีที่มีตำแหน่งในพรรคการเมือง ส่วนจะลาออกหรือไม่อยู่ที่ความสำนึกของท่าน ถ้าไม่ลาออกก็ต้องถูกครหา ถ้าทนได้ก็ทนไป” พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image