เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่สำนักงานพรรคพลังประชารัฐ ของนายสุพล ฟองงาม ถนนราษฎร์อุทิศ ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายอนุชา นาคาศัย แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ พร้อมมอบนโยบายและยุทธศาตร์ในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 2 จังหวัดและผู้สนับสนุนเข้ารับฟังกว่า 100 คน สำหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จ.อุบลราชธานี ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 นายอดุลย์ นิลเปรม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย (ทรท.) เขตเลือกตั้งที่ 2 นายโกวิทย์ ธรรมมานุชิต ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลฯ เขตเลือกตั้งที่ 3 นางสาวโยธากาญจน์ ฟองงาม (ลูกสาวนายสุพล ฟองงาม อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย) เขตเลือกตั้งที่ 4 นางสาวตวงทิพย์ จินตะเวช (ลูกสาวนายตุ่น จินตะเวช อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา) เขตเลือกตั้งที่ 5 นายสุทธิชัย จรูญเนตร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 6 นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ (พี่ชายนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ครม.ชุดนายสมัคร สุนทรเวช) เขตเลือกตั้งที่ 7 นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ รองประธานสภา อบจ. ส.จ.เขต ตระการพืชผล (ลูกชายนายอดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์ อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย) เขตเลือกตั้งที่ 8 นายณรงค์ศักดิ์ โกศัลวัฒน์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร 3 สมัย เขตเลือกตั้งที่ 9 นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ ประธานสภา อบจ.อุบลฯ (ภรรยานายสุชาติ ตันติวณิชชานนท์ อดีต ส.ส.ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน) เขตเลือกตั้งที่ 10 นายประจักษ์ แสงคำ ส.จ.เขต อ.น้ำยืน
นายสุริยะกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายที่สำคัญ 3 เรื่องหลัก คือ การแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร การให้สวัสดิการแก่ประชาชน และการทำให้บ้านเมืองสงบสุข เห็นได้ชัดเจนว่า ปัจจุบันรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถทำให้ข้าวมีราคาที่ดีสูงเป็นประวัติศาสตร์ชาวนาพอใจอย่างมาก นอกจากนี้รัฐบาลยังจ่ายให้ชาวนาเป็นค่าเก็บเกี่ยวอีกไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนหนึ่งได้ไม่เกิน 12 ไร่ รวมชาวนาได้เงิน 18,000 บาท/ครัวเรือน อีกทั้งยังจะเพิ่มจำนวนบัตรสวัสดิการคนจนจาก 14.5 ล้านใบ เป็น 20 ล้านใบภายในต้นปีใหม่นี้ อีกทั้งพรรคพลังประชารัฐจะผลักดันให้ที่ดิน ส.ป.ก.สามารถออกเป็นโฉนดได้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ถือเป็นนโยบายที่โดนใจของประชาชนอย่างมาก เพราะฉะนั้นเมื่อพรรคพลังประชารัฐนำนโยบายเหล่านี้ไปบอกกับประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานีและชาวอำนาจเจริญแล้วก็ขอให้มีความเชื่อมั่นกับพรรคพลังประชารัฐว่านโยบายเหล่านี้สามารถทำได้จริงและทำมาแล้ว
“นับต่อแต่นี้ ผมขอให้พี่น้องชาวอุบลราชธานีลบภาพเผาศาลากลางจังหวัดที่เป็นบาดแผลในหัวใจมานานออกไปจากสมอง และมาร่วมกันสร้างความปรองดองและความสงบสุขให้เกิดกับบ้านเมือง ฉะนั้น จังหวัดอุบลราชธานีมีอยู่ 10 เขตเลือกตั้ง อย่างน้อยพี่น้องประชาชนต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐอย่างต่ำ 8 ที่นั่ง ส่วนจังหวัดอำนาจเจริญผมขอยกทั้งจังหวัด คือ 2 เขตเลือกตั้ง” นายสุริยะกล่าว