หาก “ปฏิญญา โตเกียว” สามารถเลื่อนได้ หาก “ปฏิญญา นิวยอร์ค” สามารถเลื่อนได้ หาก “ปฏิญญา ทำเนียบขาว” สามารถ เลื่อนได้
แล้วเหตุใดการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จึงจะไม่อาจ เลื่อนได้
นี่คือความเชื่อมั่นโดย”พื้นฐาน”
การเลื่อน”โรดแมป”ในหลายปีก่อนสามารถกระทำได้แม้ว่าจะต้องคว่ำ”ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ เมื่อเดือนกันยายน 2558 ก็เคยทำมาแล้ว
ความคิดในเรื่อง “เลื่อน” การเลือกตั้งออกไปโดยอ้างเหตุผลที่ว่าไม่สามารถพิมพ์”บัตรเลือกตั้ง”ได้ทันจึงได้เกิดขึ้น
ถามว่าแล้วผลเป็นอย่างไร
ก็เหมือนอย่างที่ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ระบุว่า “การอ้างว่าพิมพ์ บัตรเลือกตั้งไม่ทัน เป็นเรื่องหลอกเด็ก”
บังเอิญที่พรรคประชาธิปัตย์มิใช่ “ละอ่อน”
อย่างน้อยพรรคประชาธิปัตย์ก็ก่อรูปขึ้นมาตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2489 มีอายุมากกว่าหลายคนในกกต. มากกว่าหลายคนในคสช.
เหตุผลสำคัญอย่างยิ่งที่คสช.และกกต.มองข้ามไปก็คือ
“แม้วันเลือกตั้งยังไม่ได้กำหนดอย่างเป็นทางการ แต่ผู้คนทุก ภาคส่วนในสังคมต่างรับทราบกันทั่วไปว่า วันเลือกตั้งของประเทศ ไทยจะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562”
คำยืนยันนี้ของ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ตรงกับคำยืนยันอันมาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ขณะเดียวกัน ความเชื่ออันมาจาก นายจตุพร พรหมพันธ์ คือ
“หากมีการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปอีกก็จะเป็นเพียงการเลื่อนวันแพ้เท่านั้น จะเลื่อนไปอีกกี่เดือน เลื่อนวันใดก็แพ้วันนั้น”
นี่ย่อมเป็นสัญญาณ “เตือน” อันทรงความหมายยิ่ง
น่าสังเกตว่าความรู้สึก “ร่วม” ในทางสังคมก็คือ ความคิดเลื่อนวันเลือกตั้งมิได้มาจาก “ภายนอก” หากแต่มาจาก “ภายใน”
นั่นก็คือ ภายใน”คสช.” ภายใน “รัฐบาล”
ความหมายก็คือ หากมิได้เป็นความคิดของ “คสช.” หากมิได้เป็นความคิดของ “รัฐบาล” ก็จะมาจากพรรคอันเป็นเครือข่ายของคสช.และของรัฐบาล
หากมิใช่”พลังประชารัฐ”ก็ต้อง”รวมพลังประชาชาติไทย”