คอลัมน์แกะกล่อง วรรณวรี ตะล่อมสิน ปักธง‘ปชต.’ให้ประเทศ

สนามเลือกตั้ง กทม.เป็นหนึ่งในเวทีขับเคี่ยวเข้มข้นของ 2 พรรคใหญ่ แต่สำหรับ วรรณวรี ตะล่อมสิน หรือ “ป๊อป” 1 ใน 5 สตรีของพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่จะลงสมัครในเมืองหลวง ไม่หวั่น ขอเดินหน้าปักธงประชาธิปไตยให้ประเทศ

“ป๊อป” เป็นคนพื้นที่เขตยานนาวามาแต่กำเนิด โตที่นี่ ทำธุรกิจที่นี่ จบชั้นประถมและมัธยมจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ใช้ชีวิต 4 ปีในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดินแดนที่มีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว จนจบปริญญาตรีสาขาการเงิน คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ลัดฟ้าไปคว้าปริญญาโท M.B.A. สาขาการตลาด จาก San Francisco State University สหรัฐอเมริกา

กลับมาทำธุรกิจกลุ่ม “ตะล่อมสิน” มีกิจการหลากหลายประเภท เช่น จัดจำหน่ายเม็ดพลาสติก สายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า โรงงานผลิตโคมไฟฟ้า โรงงานประกบผ้าฟองน้ำ สวนยางพารา ตัวเธอเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้าน รับตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตะล่อมสินที่ดินพัฒนา จำกัด ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นเจ้าของแบรนด์เสื่อและอุปกรณ์โยคะพรีเมียม illuztika อีกด้วย

เธอบอกว่า การเรียนที่ธรรมศาสตร์และสหรัฐอเมริกา ทำให้เธอตระหนักถึงหลักสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และอยากทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศมาตลอด เมื่อ ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ ตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา เธอเห็นว่าเป็นพรรคการเมืองที่ยึดอุดมการณ์เหล่านี้เป็นที่ตั้ง ทำให้ไฟในตัวลุกขึ้นมาอีกครั้ง จึงตัดสินใจเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ว่ากันว่าเป็นจุดสำคัญของประเทศไทย

Advertisement

ด้วยความที่เธอและเพื่อนๆ มีลูกซึ่งต่างกังวลกับทิศทางการศึกษาไทย ผู้บริหารหญิงคนนี้จึงเริ่มค้นข้อมูล ศึกษาเปรียบเทียบกับประสบการณ์การได้เห็นการจัดการศึกษาในสหรัฐอเมริกา ก็พบว่าปัญหาหลักของระบบการศึกษาไทยคือการเข้าถึงและคุณภาพ

“พูดง่ายๆ คือ เรียนจบมาแล้วนำไปใช้งานจริงไม่ได้ ดูได้จากผลการวัดสมรรถนะทางความรู้ระดับนานาชาติ PISA ที่เด็กไทยมีความรู้ต่ำกว่ามาตรฐาน แม้จะมีชั่วโมงเรียนมากกว่า 2 เท่า ของประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างฟินแลนด์ก็ตาม” เธอบอก

“ป๊อป” ยังเชื่ออย่างยิ่งว่า ต้องให้เด็กไทยเลิกท่องจำ เลิกการสอบวัดผลที่ไม่จำเป็น เน้น “กระบวนการหาความรู้” มากกว่า “คำตอบ” และต้องเปลี่ยนครูเป็น “โค้ช” ไม่ใช่ครูแบบเดิมที่พูดอยู่คนเดียวเป็นชั่วโมง สร้างบรรยากาศการเรียนแบบสร้างสรรค์ ที่สำคัญทุกโรงเรียนในประเทศต้องพัฒนาคุณภาพให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องขยับให้เปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน เพราะหลักสูตรที่ออกแบบเสร็จในวันนี้ต้องรออีกกว่า 10 ปี จะมีเด็กที่เรียนจบออกมา

Advertisement

และเธอหวังที่จะได้เห็นเด็กไทยทุกคนได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกันเพื่อให้ประเทศไทยเท่าทันโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image