กำชับ ผอ.กกต.ทุกจังหวัด เก็บข้อมูลว่าที่ผู้สมัคร หวั่นมีการร้องเรียนหลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง

รองเลขา กกต.ฝ่ายสืบสวนฯ กำชับผอ.กกต. ทุกจังหวัด เก็บข้อมูลว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เกรงมีการร้องเรียนหลังมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง เตรียมประสาน มท.-คมนาคม-กทม. ดูแลป้ายหาเสียง

เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการกกต. กล่าวระหว่างการประชุมเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ส.ส. ให้กับผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศ ตอนหนึ่งว่า ขอกำชับให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดสั่งเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพราะบางครั้งพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย และอาจไม่ได้เกิดจากตัวผู้สมัคร โดยตรง ซึ่งแม้จะยังไม่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ส. ก็ขอให้เก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นการสืบสวนในทางการข่าว เพราะหากมีการร้องเรียนที่ กกต.ต้องพิจารณาจะได้นำมาเป็นข้อมูล พยานหลักฐาน ใช้ในภายหลัง เบื้องต้นจะเสนอให้เลขา กกต.ทำหนังสือถึงปลัด 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกทม. เกี่ยวกับเรื่องกวดขันการปิดป้ายหาเสียงในช่วงที่ยังไม่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง โดยให้ทั้ง 3 หน่วยงานใช้กฎหมายหมายของตัวเองดูแลเรื่องการปิดป้าย ในช่วงที่ยังไม่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง กกต.จึงไม่สามารถไปดำเนินการกับป้ายหาเสียงของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เกรงว่าจะมีปัญหาตามมาเรื่องการลักทรัพย์ และค่าใช้จ่ายในการปลดป้าย ซึ่งหาก 3 หน่วยงานรับเรื่องไปจะได้มีผลในทางกฎหมาย

นายดุษฎี กล่าวต่อว่า ขอให้ ผอ.เลือกตั้งประจำจังหวัด กำชับให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อเก็บเป็นข้อมูล หากมีเรื่องร้องเรียนมา แต่อย่าไปยืนยันหรือวินิจฉัย ว่าสิ่งใดทำ ทำไม่ได้ เพราะผู้สมัครจะนำไปเป็นหลักฐาน ในการดำเนินการ รวมทั้งการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดภาคใต้ที่ประสบภัยพิบัติปาบึก ขอให้ให้ไปสังเกตุการณ์ เพราะการลงพื้นที่ช่วยประชาชนไม่ใช่เรื่องผิด แต่ขอให้ดูว่าลงพื้นที่ของนักการเมืองและว่าที่ผู้สมัครมีนัยยะแอบแฝงหรือไม่ ดูได้ง่ายๆว่า ลงพื้นที่ที่ประสบภัย หรือว่าไปในเขตที่ไม่ได้เกิดเหตุ เพราะอาจมีเรื่องการหาเสียงแฝง

นายดุษฎี กล่าวถึงระงับสิทธิสมัครชั่วคราว (ใบส้ม) ของผู้สมัคร ส.ว. บุรีรัมย์ ว่า กรณีนี้ กกต.จะทำให้เป็นคดีตัวอย่าง เพื่อใช้สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.โดยตามกฎหมายแล้ว กกต.จะต้องมีการพิจารณาว่าจะเสนอให้ศาลเพิ่กถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) และเพิกถอนสิทธิ์สมัคร (ใบดำ) โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างที่สำนักงานจะเสนอให้ กกต.พิจารณาขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ กกต. หากเห็นว่า เป็นความผิดทางอาญา ก็ส่งไปยังอัยการเพื่อตั้งเรื่องเสนอศาล หรือ จะต้องไปร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่ผู้สมัคร ส.ว.รายชี้โชคดีที่การเลือกตั้ง ส.ว. ไม่ได้ถูกล้ม ไป เพราะหากถูกล้มไปด้วยจะต้องถูกเรียกค่าเสียหาในการจัดการเลือก ส.ว.ใหม่ 1,300 ล้านบาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image