‘สาทิตย์ วงศ์หนองเตย’ รับ ปชป. ทำงานหนักมากเพื่อให้คนเลือก ชี้ เลื่อนเลือกตั้ง ประชาชนรับได้ แต่ต้องชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ จ.ตรัง ไม่หวั่นกระแสประชาธิปัตย์ตกต่ำลง หลังมีพรรคคู่แข่งเพิ่มขึ้นนับ 10 พรรคทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส ใน จ.ตรังครบทั้ง 3 เขต ซึ่งนายสาทิตย์ฯ ยังคงใช้เวลาว่างออกพบปะกับประชาชน โดยเฉพาะผู้ประสบภัยน้ำท่วมในตำบลลำภูรา และ ต.ห้วยนาง จ.ตรัง ซึ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำต้องนั่งรถไถนาเพื่อพาคณะไปให้กำลังใจกันผู้ประสบภัยน้ำท่วมกันถึงบ้าน หรือแม้แต่จะเดินลุยน้ำก็ต้องทำ

จากนั้นจึงเดินทางไปเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตำบลลำภูรา โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กล่าวถึงปัญหาการเมืองไทยในขณะนี้ว่า การเลือกตั้งเป็นความหวังหนึ่งของประชาชนในยามที่กำลังประสบปัญหาปากท้องเพราะทุกพรรคการเมืองมีนโยบายออกมาช่วยชาวบ้าน พอมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป คนก็ตั้งข้อสงสงสัยว่าทำไม ซึ่งการเลือกตั้งสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้แต่ต้องมีการระบุเวลาที่ชัดเจนแน่นอน ขณะนี้มันสับสนมาก ซึ่งจริง ๆ แล้วตามรัฐธรรมนูญจะต้องไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งตรงนั้นชัดเจนอยู่แล้ว แต่เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันระหว่าง กกต.กับมือกฎหมายของรัฐบาล ว่าจะนับผลการเลือกตั้งใน 150 วันหรือหลัง 9 พฤษภาคม ต้องกำหนดช่วงวันเวลาให้ชัดเจน ไม่ใช่เลื่อนลอยไร้ความหวัง เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งความวุ่นวายเกิดขึ้นได้ เพราะขณะนี้มีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งออกมาเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น เหตุผลคือไม่มีความชัดเจน เลื่อนลอยและไม่มีความแน่นอน แต่จะเลื่อนไปเมื่อไหร่ประชาชนรับได้แต่ต้องชัดเจน

ส่วนคำถามที่ว่า พรรคประชาธิปัตย์ใน จ.ตรังยังแบ่งเค้กกันไม่ลงตัวนั้น นายสาทิตย์ฯ ยืนยันว่า คุยกันแล้วว่า จ.ตรังจะต้องมี ส.ส 5 คนคือแบบแบ่งเขต 3 คนและบัญชีรายชื่อ 2 คน แต่รอให้มีการประกาศอย่างชัดเจนก่อนว่าจะมี พรก.เมื่อไหร่ จ.ตรังจะต้องแถลงข่าวอย่างชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งทั้ง 5 คนได้ลงพื้นที่หาเสียงกันแล้ว ส่วนคำถามที่ว่า พรรค ปชป.มีกระแสตกต่ำลงนั้น นายสาทิตย์ฯ ยอมรับว่าการเมืองและความนิยมจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพราะไม่มีการเลือกตั้งมา 7 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นพรรค ปชป.จึงมีโจทย์ใหญ่ที่จะต้องทำโดยเฉพาะเรื่องของนโยบาย เช่น การประกันรายได้เรื่องยางพารากิโลกรัมละ 60 บาท ปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 4 บาท เกิดปั๊บรับแสน เรื่องโฉนดชุมชน การประกันที่ดินฯลฯ

โดยยอมรับว่าพรรค ปชป.จะต้องทำงานหนักมากเพื่อให้ประชาชนเลือกทั้งจากความผูกพันและจากนโยบาย เชื่อว่าอีกไม่กี่วันจะมีการแถลงข่าว เช่น วิสัยทัศน์ภาคใต้ ปชป.มองอย่างไร การที่หลายพรรคคู่แข่งลงแข่งขันมากขึ้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดี การนำเสนอนโยบายที่ดี ๆ ประชาชนจะได้มีตัวเลือกมากขึ้น และปชป.ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งให้กับประชาชน ซึ่งไม่ได้หวั่นไหวเพราะมีความพร้อมอยู่แล้ว และการแข่งขันถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง แม้ว่าโทษทางกฎหมายจะแรง แต่ดูเหมือนว่ามีข่าวหนาหูมา เช่นที่ จ.พัทลุง นายนิพิท ฯ บอกว่ามีการจดบัตรประชาชนกันแล้ว และที่ จ.ตรังก็มีแล้วเช่นกัน จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันเป็นจิตอาสาในการ่วมกันแจ้งข่าวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image