ปธ.สภาบี้นายก อบจ.พะเยาเตรียมเปิดสภาตรวจสอบ ยกเลิก ‘พท.’ ใช้สนามกีฬา

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์

เมื่อวันที่ 11 มกราคม นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา กล่าวว่า จากกรณีที่นายสวัสดิ์ หอมนาน รองนายก อบจ.พะเยา ได้มีหนังสือแจ้งยกเลิกการขออนุญาตให้ใช้สถานที่ คือ สนามกีฬาอบจ.พะเยา ต.ดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2562 ที่ผ่านมานั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นทางนายไพโรจน์ ตันบรรจง ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 3 จังหวัดพะเยา พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ทำหนังสือ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2562 ขออนุญาตใช้สถานที่ โดยระบุเป็นสนามกีฬาจังหวัดพะเยา และขออนุเคราะห์ใช้ไฟฟ้าและติดตั้งเต็นท์ในสถานที่ จากนั้นทางฝ่ายบริหารก็ได้อนุญาตไปแล้ว แต่ท้ายที่สุดกลับลำยกเลิกหนังสืออนุญาตให้ใช้สถานที่ฯ แต่หากตรวจสอบข้อความในหนังสือการขอใช้พื้นที่กับหนังสือยกเลิกการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ จะพบว่า “สนามกีฬาจังหวัดพะเยา” กับ “สนามกีฬา อบจ.พะเยา” เป็นสถานที่แตกต่างกัน

“ผมคิดว่าเรื่องนี้มีความซับซ้อนและสับสนอยู่ในเอกสาร ที่สำคัญทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของ อบจ.พะเยา ดังนั้น ผมได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ดำเนินการร่างหนังสือเพื่อจะทำการเปิดสภา อบจ.พะเยา ทำการตรวจสอบกระบวนการ ขั้นตอนการอนุญาตและยกเลิกคำสั่งอนุญาตใช้สนามกีฬา อบจ.พะเยา ภายในวันที่ 20 มกราคม 2562 นี้” นายบุญสิงห์กล่าว

นายกิตธนรัช พ่วงภิญโญ หัวหน้ากลุ่มงานพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดพะเยา เปิดเผยถึงระเบียบ กกต. เกี่ยวกับการใช้สถานที่ราชการทำกิจกรรมทางการเมืองว่า โดยทั่วไปการขออนุญาตใช้พื้นที่หรือสถานที่ของหน่วยงานราชการในการทำกิจกรรมการเมือง หาเสียง นั้น เป็นอำนาจและขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บริหารหรือหัวหน้าหน่วยงานราชการนั้นๆ โดยยึดหลักความเสมอภาคและความเท่าเทียมกัน ซึ่งหากมีพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) เลือกตั้งออกมาแล้ว เมื่อนั้นทาง กกต.จะเข้าไปกำกับดูแลและวางระเบียบเกี่ยวกับการใช้สถานที่ราชการหรือหน่วยงานของภาครัฐในการทำกิจกรรมทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่นายไพโรจน์ ตันบรรจง ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พะเยา เขต 3 พรรค พท. กล่าวว่า ภายหลังที่ได้เกิดเหตุการณ์ที่ อบจ.พะเยา ได้แจ้งยกเลิกคำสั่งอนุญาตให้ใช้สนามกีฬา อบจ. ในการปราศรัยใหญ่ของพรรค เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2562 ที่ผ่านมานั้น ถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและผ่านไปแล้ว ไม่ติดใจ ไม่เครียด และยังไม่คิดอย่างไรต่อว่าจะยื่นร้องต่อ กกต.หรือไม่ ขอรอ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งที่จะออกมาก่อน จากนั้นจะวางแผนการทำกิจกรรมทางการเมืองต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image