วันนี้ (13 ม.ค.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กทางการเมือง ระบุว่า คุณเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่กันแน่?
ผมเป็นนักเรียนเก่าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เลขประจำตัว 8159 ในฐานะโรงเรียนราษฎร์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ อายุ 167 ปี จึงสมควรแล้วที่จะเป็นผู้นำในการปลดปล่อยพันธนาการความเชื่อในเรื่องเครื่องแบบเสียที อาทิตย์ละแค่วันเดียวให้เด็กมีความรู้สึกมีอิสรภาพมั่งจะเป็นอะไรกันหนักหนา ปู่ของหนูอายุ 74 ปี ขอเชียร์จ้ะ
เพิ่งผ่านวันเด็กมา ขออนุญาตให้ความเห็นกับผู้ใหญ่หัวใจเด็กสักหน่อย
1.ท่านนายกฯ พลเอกประยุทธ์ ไม่อาจห้ามปรามสร้างความวุ่นวายกับนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมืองอื่นๆได้ เพราะท่านไม่ได้เป็นกรรมการ ท่านไม่ได้เป็น กลาง แต่ท่านเป็นคู่แข่งคู่ต่อสู้ของพรรคอื่นๆ ข้อเท็จจริงที่แม้ท่านเองก็มิอาจปฏิเสธได้ก็คือ พรรคพปชร. กำลังเสนอชื่อท่านเป็นปาร์ตี้ลิสหมายเลขหนึ่ง หากไม่จริงก็ประกาศไม่เอาเลยสิครับ
2.ท่านรองนายกฯพลเอกประวิตร ไม่อาจห้ามปรามพรรคการเมืองใช้สถานที่ราชการในการจัดเวทีปราศรัยเพราะเป็นอำนาจของ กกต. และที่ท่านพูดว่าห้าม เพราะเป็นไปตามกฎหมายก็ไม่จริง กฎหมายไหนเขาห้ามครับ สถานที่ราชการโดยเฉพาะห้องประชุม ลานอเนกประสงค์ สวนสาธารณะ สนามกีฬา เขามีไว้ให้ประชาชนและองค์กรของประชาชนใช้ครับ หากไม่จริง ทำไมพรรค พปชร. ใช้ได้เล่าครับ กรุณาอธิบายให้ฟังหน่อยครับ
3.ท่านรัฐมนตรีสุวิทย์ แห่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ผู้ยอมรับว่าพวกท่านบริหารประเทศจนประชาชนอดตาย ออกมาประกาศอีกแล้วว่าไม่ออก คราวที่แล้วเมื่อท่านเป็นรองหัวหน้าพรรค พปชร. ท่านก็บอกว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้บอกว่าต้องออกและไม่ต้องมีบทบาทเป็นรัฐมนตรีรักษาการฯ ท่านก็โดนสหบาทาในเรื่องจริยธรรมไปเต็มเปา
มาคราวนี้กกต.ชี้มูลความผิดเพราะไปถือหุ้นของรัฐกำลังส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ ท่านก็ใช้ความไม่บางของท่านอ้างโน้นอ้างนี่แบบเด็กไปเรื่อย
นี่หรือครับที่ท่านพูดเรื่องประเทศไทย 5.0 นี่หรือครับที่ท่านภูมิใจกับเอามหาวิทยาลัยมาสังกัด หากแน่จริงก็ประกาศสิครับต่อไปนี้จะอยู่กับกฎหมายตามตัวหนังสือเท่านั้น จริยธรรม ประเพณี ศีลธรรม ไม่ต้องคำนึงกันแล้ว
ทั้งสามท่านเลือกเอา จะยังเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิมหรือจะโตเป็นผู้ใหญ่เสียที
