โบว์ตั้งวงล้อม ‘กระซิบเลือกตั้ง’ กลางราชประสงค์ จบปัญหา 115 เดซิเบล
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 16 มกราคม ที่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นำโดย น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ จัดกิจกรรม “กระซิบเลือกตั้ง” ชวนกันมาฟังเหตุและผลผ่านเสียงกระซิบ โดยมีประชาชนพร้อมใจสวมใส่เสื้อสีขาวปักข้อความว่า #พลังมด เข้าร่วมกว่า 20 คน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมดำเนินไปอย่างเงียบสงบ พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่รอบบริเวณ
โดยกลุ่มคนอยากเลือกตั้งได้ตั้งวงชุมนุมเป็นวงกลม และนั่งลงทำกิจกรรมกระซิบเลือกตั้ง ชูป้ายข้อความ “เลือกตั้งเกิน 10 มีนา เสี่ยงโมฆะ” พร้อมนำหีบบัตรเลือกตั้งของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาวางไว้กลางวงล้อม ทั้งนี้ น.ส.ณัฏฐาเริ่มกิจกรรมโดยการกระซิบข้อความสั้นๆ ให้ผู้เข้าร่วมส่งสารต่อไปรอบวง เมื่อครบรอบวงแล้วจึงเริ่มส่งต่อไปในลักษณะเดิมเรื่อยๆ ข้อความดังกล่าวมีใจความว่า “การเลือกตั้งหากประกาศผลไม่รวมใน 150 วัน จะเป็นโมฆะ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ต่อ ห้ามแปลงสาร ห้ามขยับหีบเลือกตั้ง การเลือกตั้ง 10 มีนาจะเป็นโมฆะ”
น.ส.ณัฏฐากล่าวว่า วันที่ 19 มกราคม เราจะไปชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หากภายในวันศุกร์นี้ไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาในราชกิจจานุเบกษา แต่ถ้ามีการประกาศแล้วก็จะยุบตัวในการทำกิจกรรม ตอนนี้เป็นช่วงที่เรารออยู่ และมีกระแสข่าวว่าพระราชกฤษฎีกาอยู่กับรัฐบาลตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว รอวันประกาศอยู่ ซึ่งเราก็ยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร กรณีการชุมนุมก่อนหน้านี้ใช้เสียงเกิน 115 เดซิเบลนั้น เมื่อวันอาทิตย์เรามาอยู่ที่ นี่มีการใช้เครื่องเสียง เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นการใช้ระดับเสียงที่ดังเกินไป วันนี้โบว์เพิ่งทราบว่าผลการตรวจก็ไม่ได้เกิน คงรอฟังประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพราะตามที่ได้สื่อสารไปมีความมั่นใจว่าไม่เกิน แต่มั่นใจว่าวันนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการวัดระดับคลื่นเสียงอีก เพราะเราใช้วิธีการกระซิบ การสื่อสารมีได้หลายรูปแบบ เช่นเดียวกับการร่วมชุมนุมที่มีได้หลายรูปแบบ คนก็จะได้สัมผัสการชุมนุมในรูปแบบหนึ่ง อยากให้สังคมเกิดความรู้สึกและทัศนคติที่เป็นปกติต่อการชุมนุม รวมถึงอยากให้คนรุ่นใหม่หรือใครก็ตามที่อยากจะแสดงออกได้เห็นวิธีการสร้างสรรค์ในการชุมนุมรูปแบบต่างๆ เพราะบางพื้นที่จัดรูปแบบปกติก็ยากเหมือนกัน
“เราให้จำนวนคนปล่อยไปตามธรรมชาติ ตอนนี้ปัญหาของการแสดงออกของประชาชนอยู่ที่กองทัพและรัฐบาลพยายามจะสร้างภาพให้คนเข้าใจว่าการชุมนุมเท่ากับความวุ่นวาย ครั้งนี้เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จำเป็นอย่างยิ่งในการอยู่ใต้การปกครองที่สภาไม่มีฝ่ายค้าน สื่อมวลชนถูกปิดกั้น การชุมนุมเป็นช่องทางในการสื่อสารที่สำคัญ วันนี้เราจึงใช้การสื่อสารอีกวิธี และข้อมูลที่นำมาแจกสื่อเป็นข้อมูลเพื่อสื่อสารให้สังคมทราบว่าถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้ประกาศเกิน 10 มีนาคม มีความเสี่ยงที่การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นโมฆะ” น.ส.ณัฏฐากล่าว
นอกจากนี้ ทางกลุ่มได้เผยแพร่เอกสาซึ่งอ้างอิงจากเว็บไซต์ iLaw ระบุข้อความว่า “เลื่อนเลือกตั้งเกิน 10 มีนาคม 62 เสี่ยงโมฆะ กรอบเวลาที่ชัดเจนตามรัฐธรรมนูญ โดยรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดชัดเจนในมาตรา 268 ว่า ให้ดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้แล้วเสร็จภายใน 150 วันนับแต่วันที่กฎหมายเลือกตั้ง 4 ฉบับ คือ กฎหมายว่าด้วย กกต., กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง, กฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ ซึ่งกฎหมายเลือกตั้งฯเริ่มมีผลบังคับใช้ครบทุกฉบับเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ดังนั้น วันเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นอย่างช้าไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม 2562
ทั้งนี้ การดำเนินการเลือกตั้ง ‘ให้แล้วเสร็จ’ ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ไม่ใช่แค่เพียง กกต. ต้องกำหนดวันเลือกตั้งก่อนระยะเวลาดังกล่าวเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการนับคะแนน ตรวจสอบข้อร้องเรียน และประกาศผลการเลือกตั้งด้วย ซึ่งกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 127 ระบุว่า กกต.ต้องประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 60 วันหลังวันเลือกตั้ง ด้วยเหตุนี้วันเลือกตั้งจึงไม่ควรเกิน 11 มีนาคม 2562 เพื่อให้ กกต.มีเวลาเพียงพอในการประกาศผลเลือกตั้งตามที่กฎหมายกำหนด
จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย ถ้า คสช.ต้องการจะเลื่อนเลือกตั้งออกไปให้ไกลกว่ารอบระยะเวลาดังกล่าว เพราะกฎหมายที่เขียนขึ้นได้ขีดเส้นเวลาไว้ชัดเจนแล้ว ไม่อาจตีความเป็นอย่างอื่นได้
อย่างไรก็ตาม ถ้า คสช.ต้องการจะลากการเลือกตั้งออกไปจริงๆ ก็ยังไม่ยากเกินไปสำหรับพวกเขา เพราะยังมีอำนาจพิเศษมาตรา 44 และมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่พร้อมเอามาใช้เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งที่ร่างขึ้นมาเอง แต่ผลของการแก้ไขอาจจะทำให้ คสช.เผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองอย่างมาก”