09.00 INDEX คำถาม คำตอบ พลังประชารัฐ ปัจจัย ชี้ขาด คือ “การเลือกตั้ง”

ไม่ว่าคำประกาศของ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ที่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะต้องมีส.ส.ในกทม.ให้มากที่สุด ไม่ว่าคำประกาศของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่จะได้ส.ส.ขอนแก่นยกจังหวัด 10 เขต
มีความจำเป็น เพราะถือได้ว่าเป็น “เป้าหมาย” และ “กรอบ”ที่จะต้องกำหนดและทำให้เกิดขึ้น
เท่ากับเป็นการยืนว่า “พลังประชารัฐ”มิใช่”พลังกระจอก”
แม้ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใหม่แต่ก็จะสามารถไปยืนเรียงอยู่เคียงข้างกับพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ พรรคเก่าได้
แต่จะมีที่นั่งในกทม.ได้หรือไม่ แต่จะกวาดหมดทั้ง 10 เขตในขอนแก่นได้หรือไม่ในทางเป็นจริง
นี่ย่อมเป็น”เดิมพัน”ที่หวาดเสียวยิ่งในทางการเมือง

เหตุใดจึงอยากได้ส.ส.กทม.เพราะว่าพรรคการเมืองใดหากไม่อาจกำหัวใจของคนกทม.ได้ก็ยากอย่างยิ่งที่จะดำรงอยู่ทางการเมืองได้อย่างองอาจ
อย่างน้อยพรรคพลังประชารัฐก็อุตส่าห์ทุ่มทุน”ดูด”เอาคนของพรรคประชาธิปัตย์ คนของ”มวลมหาประชาชน”มาแล้ว
ชื่อเสียง เกียรติภูมิ เก่าย่อมสร้างความมั่นใจ
คำถามก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมจะอนุญาตหรือไม่
เช่นเดียวกับในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนอกจากนครราชสีมา แล้ว ถือว่า ขอนแก่น อุบลราชธานี เป็นจังหวัดใหญ่มีส.ส.เขตถึง 10 เขต
หากไม่สามารถปักธงในนครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี ก็ถือได้ว่าล้มเหลวในทางการเมือง
คำถามอยู่ที่ว่า พรรคเพื่อไทย จะยินยอมหรือไม่
หากไม่ยินยอมก็ยากเป็นอย่างยิ่งจะเหลือเนื้อที่ให้กับพรรคพลังประชารัฐในทางเป็นจริง

พลันที่ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรือง ได้ลงพื้นที่ ไม่ว่าพื้นที่กทม. ไม่ว่าพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การมาห้อมล้อมของชาวบ้านจะเป็นคำตอบหนึ่ง
เป็นคำตอบทั้งต่อ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นคำตอบทั้งต่อ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
ที่สุดแล้วคือ จะเอาด้วยกับ”พลังประชารัฐ”มากน้อยเพียงใด
คำตอบสุดท้ายจึงอยู่ที่”ผล”ของ”การเลือกตั้ง”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image