เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ,นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย , นายสุริยะใส กตะศิลา , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ , นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ , นายอมร อมรรัตนานนท์ , นายนรัญยู หรือศรัณยู วงษ์กระจ่าง , นายสำราญ รอดเพชร , นายศิริชัย ไม้งาม , นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายเทิดภูมิ ใจดี แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา ในคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ พล.ต.จำลอง กับพวกทั้ง 13 คน ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็นเงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ จากกรณีร่วมกันปิดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อปี 2551
โดยจำเลยทั้ง13คน ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาอ้างเหตุสุดวิสัย และศาลชั้นต้น มีคำสั่งยกคำร้องขอขยายเวลาฎีกาดังกล่าว ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีร่วมกันปิดสนามบินโดยชอบแล้ว ที่จำเลยอ้างว่าเจ้าพนักงานศาล นำหมายนัดไปปิดที่สำนักงานทนายความจำเลยในวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันหยุด จึงทำให้การส่งหมายไม่ชอบนั้น ศาลเห็นว่าเมื่อเป็นการปิดหมาย ณ สำนักงานของทนายความจำเลยแล้ว จึงเป็นการส่งหมายตามกฎหมาย ถือว่ามีการส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ทนายความจำเลยโดยชอบแล้ว และเป็นการส่งหมายนัดให้ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากจำเลยที่ถือได้ว่าจำเลยทั้งหมดทราบนัดโดยชอบแล้วเช่นกัน
ส่วนเหตุที่อ้างว่า หากจำเลยต้องเสียสิทธิฎีกาย่อมทำให้ถูกบังคับคดีและล้มละลายนั้น เป็นเพียงเหตุผลส่วนตัว ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยที่จะทำให้ไม่อาจยื่นฎีกาได้ทันภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จำเลยทั้ง 13 คน จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาภายหลังจากสิ้นสุดระยะเวลา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องของจำเลยนั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ภายหลัง นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า จากนี้ยังมีสิทธิยื่นฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตขยายเวลาฎีกาได้ตามกฎหมาย ตนเตรียมยื่นคำร้องฎีกา ภายใน 30 วัน แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ขยายเวลาฎีกาคดีปิดสนามก็ต้องเข้าสู่กระบวนบังคับคดีทางแพ่งที่จำเลยต้องร่วมกันชดใช้เงินตามคำพิพากษา ให้กับทอท. แต่เมื่อเป็นคดีแพ่ง จำเลยและโจทก์จะสามารถเจรจากันได้เรื่องการชดใช้ อาจจะใช้วิธีการผ่อนชำระก็เป็นได้
