‘มาร์ค’โวย ระเบียบกกต.สุดรุงรัง สื่อไม่กล้าจัดเวทีดีเบตนักการเมือง ทั้งที่เป็นหน้าที่-วิชาชีพ

“มาร์ค” โวย กกต.ออกระเบียบรุงรัง จี้ขอความชัดเจนให้เร็วที่สุด ระบุ สื่อจัดเวทีเป็นหน้าที่-วิชาชีพ ชี้ อย่าควบคุมจนเสียบรรยากาศเลือกตั้ง

เมื่อ‪เวลา 16.00 น.‬ วันที่ 24 มกราคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป. กล่าวว่า ขณะนี้พรรคมีความพร้อมและต้องการเดินหน้ารณรงค์ และให้ทุกคนเดินตามกฎกติกาและกฎหมาย เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับพรรคการเมืองอื่นๆ สิ่งที่พรรคต้องการให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ทำ เนื่องจากมีการตราพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฏ.)การเลือกตั้งแล้ว และกกต.เองก็ให้ระเบียบในการหาเสียงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ประกาศพ.ร.ฎ. เพราะฉะนั้นจึงอยากให้กกต.เร่งดำเนินการโดยกำหนดรายละเอียดให้เร็วที่สุด เช่น ผู้สมัครบางคนคิดว่าเมื่อมีพ.ร.ฎ.แล้วก็ติดตั้งป้ายหาเสียงได้ แต่ปรากฏว่ากกต.ยังไม่กำหนดจุดที่จะติดป้าย อีกทั้งการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์จะต้องแจ้งทางกกต.ก่อน ซึ่งผู้สมัครบางส่วนก็ได้แจ้งเรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีผู้สมัครบางคนไปยื่นเช่นกัน ปรากฏว่ากกต.จังหวัดไม่รับแจ้ง โดยอ้างว่ายังไม่ถือเป็นผู้สมัคร ขณะที่บางจังหวัดก็รับแจ้ง จึงเกิดความสับสนและมีปัญหาในความชัดเจนเกี่ยวกับการทำงาน นอกจากนี้ยังมีเรื่องใหม่อีกหลายประการทำให้เกิดข้อสงสัย แต่ก็ไม่สามารถรอจนเกิดเรื่องแล้วค่อยมีการวินิจฉัย เช่น กำหนดให้มีผู้ช่วยหาเสียงได้ไม่เกิน 20 คน ถามว่าต้องนับใครบ้าง และนับอย่างไร เป็นต้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทราบปัญหาในเรื่องที่สื่อมวลชนจะทำงานในการจัดเวทีต่างๆ ซึ่งเราต้องการที่จะให้ผลประโยชน์ตกกับประชาชนผู้มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งว่า จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีข้อมูลมากที่สุดเกี่ยวกับพรรคการเมืองต่างๆเพื่อนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคใด แต่กลายเป็นว่า สื่อมวลชนที่จะจัดเวทีเริ่มถูกเตือนในทำนองว่า ถ้าไม่เชิญทุกพรรคการเมืองจะมีปัญหาเรื่องความเท่าเทียม ทั้งที่ความเป็นจริงหลักการเสมอภาค และเท่าเทียมต้องพิจารณาจากความเป็นจริงเกี่ยวกับการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง และโดยธรรมชาติของสื่อ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดเวทีแล้วมาพรรคการเมืองมาเป็นร้อยพรรค ดังนั้นกกต.อย่าจำกัดเวทีการประชันวิสัยทัศน์ของพรรคการเมืองที่สื่อมวลชนใช้ดุลพินิจตามหลักวิชาชีพของเขาอยู่แล้ว ในการเชิญทุกฝ่ายที่คิดว่า จะมีบทบาทสำคัญในการทำงานระดับชาติหลังการเลือกตั้ง

“ส่วนการหาเสียงทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อยากให้ กกต.ชัดเจนในการปฏิบัติ โดยในส่วนของพรรคฯเราได้ดูกฎระเบียบเรียบร้อยแล้ว และจะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยคิดว่ามีอยู่หนึ่งปัญหา คือ การหาเสียงทางช่องทางดังกล่าว จะต้องแจ้งชื่อผู้ผลิต ผู้ว่าจ้าง จำนวนชิ้นที่ผลิต วันที่ที่ผลิต ไว้ทางด้านหน้าอย่างชัดเจน เรายินดีที่จะทำตามนี้ได้ แต่อยากเรียน กกต.ว่า ค่อนข้างรุงรัง ถามว่าการกำหนดแบบนี้จำเป็นด้วยหรือที่ต้องทำ มองว่ามันเป็นความยุ่งยากเกินความจำเป็น ซึ่งอยากให้อยู่กับความเป็นจริงเหล่านี้ นอกจากนี้ก็อยากขอความชัดเจนในการควบคุมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพราะทางพรรคเองก็ควบคุมได้เพียงส่วนหนึ่ง เช่น การมีเพจเฟสบุ๊ก เรารับผิดชอบในข้อความที่เราเอาขึ้นเองได้ แต่ถ้าจะให้รับผิดชอบทุกความเห็นที่มีคนพิมพ์เข้ามาไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนตัวผมจะไม่ปิดเพจของตัวเอง เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถ้าจะกรุณาควรกำหนดให้ชัดว่าความรับผิดชอบเป็นอย่างไร ก็จะเป็นประโยชน์ เพราะกกต.สามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้ภายในครึ่งวัน ไม่จำเป็นต้องให้พรรคการเมืองทำหนังสือ และกกต.มีเวลาตอบกลับ 30 วัน ซึ่งจะไม่ทันเวลาในการหาเสียง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่าข้อปฏิบัติที่ไม่ชัดเจนจะทำให้มีผู้กระทำผิดกฎหมายมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนไม่อยากให้เกิดขึ้น คือ ไปควบคุมอะไรเสียจนทำให้บรรยากาศที่จะทำให้คนสนใจการเลือกตั้งได้รับข้อมูลในเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างกว้างขวางถูกทำลายไป เพราะเราต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม หากจำกัดการสื่อสาร การมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งไม่ใช่เรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ แต่เป็นผลเสียกับกระบวนการเลือกตั้งโดยตรง และเมื่อมีการออกระเบียบอะไรที่ปฏิบัติยาก เพราะหลายครั้งในอดีตที่ตนสังเกตเห็น คนที่พยายามปฏิบัติก็จะเสียเปรียบ จะมีคนจำนวนหนึ่งตัดสินใจไม่ปฏิบัติ เพราะข้อบังคับปฏิบัติยาก ที่สุดอาจจะมีผู้ไม่ปฏิบัติมากกว่า สุดท้ายกกต.หรือผู้มีอำนาจก็จะบอกว่า ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องปฏิบัติ กลายเป็นว่าคนที่พยายามทำตามระเบียบก็จะเสียเปรียบและมีภาระ ดังนั้นอะไรที่สามารถทำความชัดเจนได้เร็วที่สุดเท่าไหร่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image