ผู้เขียน | สุชาติ ศรีสุวรรณ |
---|
การเลือกตั้งที่กำหนดวันแน่นอนแล้วว่า 24 มีนาคม 2562 กฎหมายต่างๆ เริ่มบังคับใช้
ด้วยกติกาที่เปลี่ยนแปลงใหม่จนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ความยุ่งยากน่าจะตามมาไม่น้อย
กฎหมายใหม่ที่เขียนขึ้นโดยคล้ายกับว่ามีเจตนาตรวจสอบความสามารถในการทำความเข้าใจตัวบทของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่นักการเมือง จนถึงประชาชนทั่วไป
ตั้งแต่หลักฐานการสมัคร การใช้จ่ายงบประมาณ การหาเสียง วิธีการเลือกตั้ง วิธีนับคะแนน และอื่นๆ
การทำความเข้าใจและทำตามเพื่อไม่ให้เป็นความผิด ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ
หากติดตามข่าวสารจะเห็นได้ว่ามีปัญหาในเรื่อง “ความเข้าใจ” เกิดขึ้นแล้วหลายเรื่อง “รายการเสียภาษีของผู้สมัคร” ที่นักการเมืองโอดครวญว่ายุ่งยากเกินไป “การติดป้ายหาเสียงของผู้สมัครบางคน” ที่ถูกร้องว่าทำผิดกฎหมาย เพราะไม่ติดป้ายในพื้นที่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กำหนดให้
การหาเสียงออนไลน์ที่นักการเมืองต้องปิดช่องทางสื่อสารของตัวเองกันเป็นแถว เพราะมีรายละเอียดในกฎหมายกำหนดเรื่องนี้ไว้ทำให้เกิดความไม่แน่ใจ
ด้วยการรับรู้ถึงเจตนาของกฎหมายที่ต้องการเอาเป็นเอาตายกับนักการเมือง โดยกำหนดโทษไว้รุนแรงในหลายเรื่อง
ประกอบกับกระแสที่ก่อให้เกิดความรู้สึกว่า จะเป็นการเลือกตั้งที่บางฝ่ายจะใช้อำนาจที่มีอยู่เพื่อให้ได้รับชัยชนะอย่างไม่เลือกวิธี ก่อให้เกิดความกังวลว่า “การตีความกฎหมายอย่างกลั่นแกล้งกันจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้”
ทำให้ฝ่ายที่ประเมินว่าตัวเองจะเป็นเป้าหมายการถูกอำนาจใช้กติกาเข้าเล่นงานต้องป้องกันตัวเอง จนกลายเป็นการหาเสียงที่น่าอึดอัด
บรรยากาศเช่นนี้ไม่เป็นผลดีต่อประชาธิปไตย
เพราะว่าไปแล้ว เนื้อหาหนึ่งของประชาธิปไตยคือหนทางเสรีภาพ
ข้อจำกัดควรจะเกิดขึ้นเฉพาะที่เห็นว่าจำเป็นมีขึ้นเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิของคนอื่น
บรรยากาศของกติกาในแบบที่กำหนดเพื่อให้ เกิดความระมัดระวังเกินจำเป็น
แถมยังเป็นกติกาที่คลุมเครือ ผิดหรือถูกขึ้นอยู่กับความคิดความเห็นเป็นกรณีๆ ไปของคนกลุ่มหนึ่ง คณะหนึ่ง โดยไม่ว่าสามารถยึดอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นหลักเพื่อปฏิบัติได้
จึงเป็นบรรยากาศการหาเสียงที่ชวนให้อึดอัด และปิดกั้นการมีส่วนร่วมของฝ่ายต่างๆ เพื่อช่วยให้ประชาชนรับรู้ข้อมูล และเกิดความเข้าใจได้อย่างทั่วถึง
เหมือนกับว่า ภาระทั้งหมดโยนไปให้ประชาชนต้องรับผิดชอบในการขวนขวายหาความรู้ความเข้าใจเอาเอง เพื่อพิสูจน์ว่าพร้อมจะเป็นพลเมืองของประเทศประชาธิปไตย
ด้วยบรรยากาศเช่นนี้ และเหตุที่เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญ
การหยิบยกเรื่องความไม่เป็นธรรมในการจัดการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นอย่างหนีไม่พ้น
ดังนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้งที่มีอำนาจและหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อย จะต้องทำให้เห็นว่าทุ่มเทอย่างหนักและจริงจังเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย
ด้วยการไม่มุ่งแต่คอยใช้อำนาจจัดการคนที่ไม่เข้าใจกติกา โดยไม่สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้ก่อน
การเลือกตั้งครั้งนี้ ความวุ่นวายของจะมีมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับท่าทีของ กกต.ที่ทำงานด้วยความเข้าใจคนอื่น ฝ่ายอื่นหรือคิดแต่คอยรอใช้อำนาจเข้าจัดการ