วันนี้ (27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟสบุ๊คเฟนเพจ ‘Chiang Rai United FC’ ของสโมสรฟุตบอลสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด โพสต์ภาพหมู่นักฟุตบอลของทีมพร้อมป้ายข้อความ #SaveHakeem โดยระบุว่ามาร่วมรณรงค์ส่งนักเตะคืนสู่สนาม ไม่ควรมีนักฟุตบอลคนไหนถูกกักขังโดยไม่มีเหตุผลทางกฎหมายใดๆ รองรับ
สำหรับ Hakeem หรือ ฮาคีม อัล-อราบี นั้น เขาอดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรนขณะเดินทางมาเที่ยวกับภรรยาที่ประเทศไทยเมื่อ 27 พ.ย. 2561 เขากลับถูกคุมขัง ทั้งที่ฮาคีมได้รับการรับรองและคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัยโดยรัฐบาลออสเตรเลียแล้ว โดยศาลอาญาได้ฝากขังฮาคีมเป็นเวลา 60 วันนับตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2561 โดยมีองค์กรสิทธิมนุษยชน และองค์กรกีฬานานาชาติแสดงความกดดันมากขึ้นต่อทางการไทย
มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ผ่านทางแฟนเพจอย่างเป็นทางการ โดยมีใจความรณรงค์ให้ทางการไทยปล่อยตัว ฮาคีม เป็นอิสระ เพื่อที่จะได้กลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง ซึ่งมีใจความสำคัญว่า
“มาร่วมรณรงค์ส่งนักเตะคืนสู่สนาม ไม่ควรมีนักฟุตบอลคนไหนถูกกักขังโดยไม่มีเหตุผลทางกฎหมายใดๆ รองรับ เมื่อวานนี้ผมโพสต์ข้อความ #SaveHakeem ในเพจ ส่วนตัวแล้วมีคนถามมาแบบงงๆ ว่าเขาคือใคร เรื่องราวมันเป็นมายังไงผมถึงพูดถึงนักฟุตบอลคนนี้ ก็น่าดีใจที่แฟนบอลถามมา ผมเลยคิดว่า วันนี้พอมีเวลา ขออธิบายในเพจสโมสรแบบยาวๆ หน่อยนะครับ”
นายฮาคีม อัล-อราบี คือนักฟุตบอล สัญชาติบาร์เรน ซึ่งเคยถูกตามจับกุมด้วยหมายจับของตำรวจสากล ด้วยข้อหาว่าเขาเคยมีส่วนประท้วงต่อต้านรัฐบาลบาร์เรนและทำลายทรัพย์สินของรัฐ เมื่อปี 2014 การประท้วงที่ว่านี้ เป็นกระแสประท้วงในช่วงอาหรับสปริง ซึ่งรัฐบาลทำการกวาดล้างผู้ประท้วงอย่างเด็ดขาด รวมถึงใช้โซเชียลมีเดียไล่ล่าด้วย ตอนนี้บาห์เรนเป็นประเทศที่นักโทษทางการเมืองจำนวนมาก หลายคนถูกจองจำ ซ้อมทรมาน ไปจนถึงถูกติดตาม
นายฮาคีมเองก็เคยถูกจับกุมและเขาอ้างว่าเคยถูกซ้อมระหว่างที่ถูกจับกุม แต่เขาหนีออกมาและขณะนี้เขาได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในประเทศออสเตรเลียแล้วตั้งแต่ปี 2017 หรือสองปีก่อนนี้ และหมายจับอินเตอร์โพลก็ถูกยกเลิกไปแล้วนะครับ แต่มาถูกจับที่ไทยเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ปีที่แล้ว ขณะที่เดินทางมาฮันนีมูนกับภรรยา
ทำไมถึงสนใจเรื่อง ฮาคีม
มีสองเหตุผล เหตุผลแรก ก็คือ เขาเป็นนักฟุตบอลครับ เมื่อเขาลี้ภัยได้เขาก็ไปเล่นให้ทีม PV FC และเรื่องนี้วงการฟุตบอลในออสเตรเลียก็ตื่นตัวมาก อย่างเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายเครก ฟอสเตอร์ อดีตกัปตันฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลีย เพิ่งเดินทางเยือนไทยเพื่อรณรงค์ให้ปล่อยตัวฮาคีม เขาบอกว่า เขาต้องการเรียกร้องให้ทางการไทยและแฟนฟุตบอลชาวไทยได้ตระหนักว่าการจับกุมและควบคุมตัวฮาคีม เป็นการทำลายชีวิตนักฟุตบอลอาชีพ ผมคิดว่าคนที่รักในกีฬาฟุตบอล คงเข้าใจความรู้สึกนี้ การเอาตัวนักฟุตบอลคนหนึ่งมากักขังไว้ มันคือการทำลายชีวิตของเขา และเมื่อไม่มีเหตุผลในทางกฎหมายข้อไหนที่กักขังตัวเขาไว้ ผมคิดว่าเราต้องมาช่วยกันเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาไปครับ
เหตุผลที่สอง สำคัญมากสำหรับประเทศไทย ซึ่งช่วงหลังๆ มานี้ มีหลายกรณีแล้วที่ถูกจับจ้องว่ารัฐบาลไทยมีการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ไม่สอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศ และไม่สอดคล้องกับหลักมนุษยธรรมด้วยครับ
ก่อนหน้านี้ก็มีกรณีที่ควบคุมตัวหญิงสาวชาวซาอุฯ ที่หนีการถูกจับแต่งงาน เขาแวะเปลี่ยนเครื่องบินที่กรุงเทพฯ เพื่อจะไปปลายทางคือออสเตรเลีย แต่ ตม. ไทยควบคุมตัวเขาไว้และมีท่าทีจะผลักดันกลับประเทศด้วย ซึ่งมันขัดกับหลักสิทธินุษยชนอย่างยิ่ง ว่ารัฐจะต้องไม่ผลักดันคนกลับไปหากการผลักดันนั้นจะทำให้เขาเป็นอันตรายต่อชีวิต เป็นข่าวใหญ่ไม่กี่วันก่อน จนกระทั่ง UNHCR เข้ามาช่วย และรัฐบาลแคนาดารับเขาเป็นผู้ลี้ภัย
กรณีฮาคีม เขาถูกควบคุมตัวมาก่อน น.ส. ราฮาฟอีกนะครับ ทั้งๆ ที่เขาได้รับสถานะผู้ลี้ภัยแล้ว และเลือกเดินทางมาไทยก็เพื่อจะมาฮันนีมูน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทางการไทยต้องพิสูจน์ตัวเองครับว่าจะปฏิบัติให้สอดคล้องกับหลักกสิทธิมนุษยชนหรือเปล่าเรื่องของฮาคีมอาจจะยังเงียบเกินไป ตอนนี้ฮาคีมถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.
ผมคิดว่า นี่เป็นเรื่องที่คนในวงการฟุตบอลเริ่มได้ก่อนเลยครับ เเค่ช่วยกันรณรงค์ส่งนักเตะคืนสู่สนาม นักฟุตบอลควรได้โชว์ฝีเท้าและพิสูจน์ตัวเองในสนาม ไม่ควรให้เขาถูกกักขังโดยไม่มีเหตุผลทางกฎหมายใดๆ รองรับครับ มาช่วยกันรณรงค์ร่วมกันครับ#SaveHakeem
นอกจากนี้ ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศศึก ลีโอ ปรีซีซั่น 2019 ที่ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เอาชนะ ฮานอย เอฟซี 3-2 พลพรรคนักเตะของ กว่างโซ้งมหาภัย ได้ร่วมกันรณรงค์ปล่อยตัว ฮาคีม ด้วยการถือป้ายแบนเนอร์ SAVE HAKEEM ลงสนามก่อนการแข่งขันในเกมดังกล่าวด้วย
